"อนุทิน" ยอมรับพิจารณาแล้วเสี่ยงกลับไม่ทันประชุมรัฐสภาแถลงนโยบายรัฐบาล ยันความเชื่อมั่นของไทยอยู่ที่การบริหารและการสนับสนุนจากประชาชน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวทีโลก กต. พร้อมรับมือหาก "กัมพูชา" ฉวยโอกาสบนเ
เวลา 13.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว. ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อประชุม สส. และกรรมการบริหารของพรรคภูมิใจไทย ตามวาระปกติ เป็นการเตรียมความพร้อมการประชุม สส.ในสัปดาห์นี้
นายอนุทิน กล่าวถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 80 (UNGA 80) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังฝ่ายกฎหมายระบุ สามารถเดินทางไปได้ หากเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนว่า หากพิจารณาจากเวลาแล้ว คงไม่ทันวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งเบื้องต้นจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นเรื่องของช่วงเวลา และเรื่องของอำนาจที่มีอยู่ บางคนบอกไปได้ บางคนก็บอกว่าไปไม่ได้
เมื่อถามว่า ทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่าสามารถไปได้ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีแนวทางของเรา อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ไปเพื่อลงนามข้อตกลงอะไร หากรัฐบาลของตนเข้ามาบริหารประเทศเรียบร้อยแล้ว เราจะมีความชัดเจนในการบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งของไทย-กัมพูชาอย่างไร
เมื่อถามอีกว่า การที่นายกฯ ไม่ได้ไปด้วยตัวเอง จะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการเรียกความเชื่อมั่นจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการของรัฐบาล และการสนับสนุนจากประชาชนและกองทัพ ไม่ได้อยู่ที่เวทีไหน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบ้านเรา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชาชนให้ความสนับสนุนแนวทางต่าง ๆ ของรัฐบาล นี่คือความเชื่อมั่น
เมื่อถามว่า กฤษฎีการะบุว่าหากมีความจำเป็น เช่น เรื่องสถานการณ์ชายแดน สามารถที่จะเดินทางไปได้ นายอนุทิน กล่าวย้อนว่า ความจำเป็นคืออะไร หรือต้องชี้แจงอะไรกับใคร ประชาคมโลกรับทราบสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าหากไม่ได้ไปเข้าร่วมประชุม UNGA จะทำให้ไทยเสียโอกาสอะไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับแนวทางของรัฐบาลนั้นเรามีความชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประชาคมโลกหรือใครก็ตาม รับทราบข่าวสารกับแนวทาง และนโยบายที่กำลังจะเข้ามา ขณะนี้เราต้องการความสมบูรณ์แบบทุกรูปแบบ ดังนั้นเราต้องแถลงนโยบายให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อถามอีกว่า ประเทศไทยต้องทำเอกสารชี้แจงหรือไม่ จากกรณีที่กัมพูชาก็ร้องเรียนในเวที UN เช่นกัน นายอนุทินกล่าวว่า กัมพูชาก็กล่าวหาเราว่าละเมิดนั่นละเมิดนี่ แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถแถลงจากประเทศไทยก็ได้
เมื่อถามว่า จะต้องมีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องมีการหารือว่าจะให้ให้ไปหรือไม่ เมื่อเช้านี้มีการประชุมหลายหน่วยงาน เห็นสมควรว่าไม่ควรที่จะไปร่วมประชุม ซึ่งมีการตีความต่าง ๆ มากมายหากไปเข้าร่วมแล้วไม่สามารถพูดได้เต็มที่ ไปพบคู่เจรจา หากถูกถามว่า manes มีอำนาจเต็มหรือไม่ แล้วจะพูดว่าน่าจะเต็ม ก็ทำให้เราเสียโอกาสแล้ว เราจะคุยกับใคร ก็รอให้เรียบร้อยก่อน การจะคุยกับใครก็ตามไม่จำเป็นต้องคุยที่UN คู่กรณีมีเพียงไม่กี่ราย
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ภายหลังจากแถลงนโยบายแล้ว จะแถลงจุดยืนของรัฐบาลไทยในการปกป้องอธิปไตยของไทย นายอนุทิน กล่าวว่า หากมีความจำเป็น ก็ต้องดูว่าที่ UN มีข้อสงสัยอะไร สิ่งที่สำคัญคือต้องเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินเต็มรูปแบบให้ได้ ในสัปดาห์หน้านี้จะมีการนัดแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งเรื่องนี้สำคัญกว่า หากไปแล้วเกิดเครื่องบินดีเลย์ กลับมาแถลงนโยบายไม่ได้ จะทำให้เกิดปัญหามากมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับรัฐสภาเรื่องการแถลงนโยบายในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้
พรรคร่วม รบ. เข้า "ภูมิใจไทย" ถกนโยบายรัฐบาล
ขณะเดียวกัน พบว่า บรรดาพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธนากร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยคาดว่า จะมีการประชุมหารือกันเกี่ยวกับร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังจากพรรคภูมิใจไทย และทีมเศรษฐกิจ ได้มีการยกโครงร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จแล้ว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ปรับแก้ไขครั้งสุดท้ายก่อนจะแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้
ด้านนายสุชาติ เปิดเผยสั้นๆว่า การมาในวันนี้เพื่อมาพูดคุยงานกันเฉยๆ สำหรับกระทรวงทรัพย์ฯ จะเสนออะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขอให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ให้เรียบร้อยก่อน และค่อยมาพูดคุยกันทีหลัง ส่วนจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ขอไปคุยกับกลุ่มเพื่อน สส.ของตนเองก่อน ซึ่งในวันนี้ สส.บางคนก็ไม่ได้เดินทางมาด้วย เพราะติดภารกิจลงพื้นที่
25 ก.ย.ชัดเจนวันแถลงนโยบายรัฐบาล
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมพรรคยังหารือถึงการเตรียมความพร้อมของสส.ในวันแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว ส่วนวันแถลงนโยบายจะเป็นวันใด วันพรุ่งนี้ (24 กันยายน) จะมีการประสานไปยังประธานรัฐสภา วิปฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพื่อกำหนดกรอบการประชุมในเรื่องของวันแถลงนโยบาย ซึ่งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้พูดคุยกัน และมีการเตรียมความพร้อมแล้วว่าจะประชุมอย่างไรประมาณไหน แต่ขอย้ำว่าจะไม่มีคำที่เรียกว่าองครักษ์พิทักษ์อะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างจะใช้ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาตามที่เห็นสมควรเท่านั้น โดยจะให้สมาชิกได้พูดคุยเรื่องนโยบายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เตรียมไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่เกินวันพุธหรือพฤหัสบดีนี้ น่าจะมีความชัดเจนเรื่องของวันแถลงนโยบาย
น.ส.แนน กล่าวด้วยว่า นอกจากที่ประชุมมีการหารือถึงการยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น โดยช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (24 กันยายน) พรรคภูมิใจไทย และผู้ที่ร่วมลงชื่อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด จะยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเนื้อหาคร่าวๆ จะเป็นประเด็นวิธีการสรรหาสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยจะแยกส่วนทั้งตัวส.ส.ร. และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งวิธีคิดของพรรคภูมิใจไทยคำนึงจากประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความไว้ด้วย
กต. พร้อมรับมือเวที UNGA เตรียมคนแจง หาก "กัมพูชา" ฉวยโอกาสลวงโลก
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวการประชุมและกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงในช่วงสัปดาห์ผู้นำของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA 80 High-level Week) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
นายนิกรเดช กล่าวว่าการประชุมสมัชชาสหประชาชาติมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งและเป็นเวทีพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นทุกปี ให้ผู้นำและผู้แทนระดับสูงของแต่ละประเทศได้กล่าวอภิปรายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่ประสงค์จะผลักดันในเวทีระหว่างประเทศ ในฐานะรัฐสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกและสนับสนุนระบอบพหุภาคี เป็นโอกาสให้ไทยได้พบผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงของท่าทีของไทยในประเด็นสำคัญ
ในปีนี้หัวข้อในการประชุมสมัชชาสมัยสามัญครั้งที่ 80 ภายใต้ชื่อ “Better together: 80 years and more for peace, development and human rights” ให้รัฐสมาชิกได้สะท้อนผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนาขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชนร่วมกัน โดยประเด็นที่ไทยจะให้ความสำคัญ ประกอบด้วย การส่งเสริมสันติภาพความมั่นคงที่ยึดกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และกฎหมายระหว่างประเทศเป็นที่ตั้ง การกำหนดทิศทางและเครื่องมือสำคัญรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก บทบาทของไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืนพร้อมกับปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยยึดหลักการมนุษยธรรม
สำหรับหัวหน้าคณะในการที่จะไปประชุม กระทรวงการต่างประเทศพร้อมสนับสนุนการเข้าร่วมของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะต้องรอความแน่นอนจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันที่ 24 ก.ย.นี้ โดยตนเองจะแจ้งความชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ย.68
นายนิกรเดชกล่าวถึงการรับมือของไทย หากทุกวงประชุม ทางกัมพูชาจะสอดแทรกเรื่องปัญหาชายแดนเข้ามาด้วยในเวที UNGA ว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมไว้หลายฉากทัศน์ หากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไปเข้าร่วม จะมีการกล่าวถ้อยแถลงในภาพกว้างในเรื่องที่ไทยสนับสนุนวาระการประชุมของสหประชาชาติ ทั้งสิทธิมนุษยชน สันติภาพ ความมั่นคง หากฝ่ายกัมพูชาหยิบยกและสอดแทรกประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทยจะมีกลไกอย่างหนึ่งคือสิทธิในการตอบโต้ โดยได้เตรียมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนหากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เดินทางไปเอง ก็จะมีผู้แทนไปเข้าร่วมโดยลดระดับลงมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติณนครนิวยอร์ก ซึ่งการประชุมจะมีหลายกรอบมาก มีอธิบดีหลายคนที่เข้าร่วมเป็นผู้แทนในกรอบต่างๆ จะมีอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ อธิบดีกรมอาเซียน อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมถึงตนอธิบดีกรมสารนิเทศ