"โสภณ"งง ถูกตั้งฉายา"โสภณ เขากระโดง" เมินคนโจมตี"ครม.ปราสาทสายฟ้าคอนเนคชั่น" ลั่นเลือกเกิดไม่ได้ แต่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าคิดผิด ยืนยันไม่มีชื่อเคยถูก"ป.ป.ช."ชี้มูลทุจริต
ที่ จ.ศรีสะเกษ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เผย กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกต คณะรัฐมนตรี(ครม.)นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นปราสาทสายฟ้าคอนเนคชั่นว่า ก็มีการหมายถึงว่าเป็นคนบุรีรัมย์ ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย วันนี้พอพูดถึงบุรีรัมย์ จะมีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอคติก็จะพูดว่า คนบุรีรัมย์จะเข้าไปทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่กลุ่มที่รู้ความจริง เหมือนที่คนบุรีรัมย์รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นต้องดูที่การกระทำเหมือนตนที่วันนี้ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แต่กลับถูกตั้งฉายาว่าโสภณ เขากระโดง
นายโสภณ กล่าวอีกว่า ตนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เพราะอยู่บุรีรัมย์ ขอถามว่า ที่ตนมีชื่ออยู่ในครม.ชุดนี้ ก็ต้องไปดูว่า สิ่งที่จะทำในอนาคตนั้นจะเหมือนกับคำปรามาสหรือไม่ ต้องมาพิสูจน์กัน ในสังคมนี้พอพูดเรื่องดีก็ไม่เชื่อ แต่พอพูดเรื่องไม่ดีก็เชื่อไว้ก่อนว่าจะทำแบบนั้น จะทำแบบนี้ จึงเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย และการใช้โซเชียลมีเดียที่จริงบ้าง เท็จบ้างมาบั่นทอนความน่าเชื่อถือของคนที่ไม่รู้ความจริง
“วันนี้ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และไม่ใช่แค่ผมนะ แต่สส.บุรีรัมย์ นักการเมืองของคนบุรีรัมย์ หรือมีชื่อคนบุรีรัมย์เข้าไปเป็นครม. ต้องพิสูจน์ว่า เราไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิด ตรงนี้สำคัญเพราะอนาคตของภูมิใจไทย มันไม่ได้อยู่ที่วันนี้อนาคตของภูมิใจไทยอยู่ที่ว่า ถ้าเราทำในสิ่งที่ทุกคนคาดผิดหมด พวกผมก็เป็นพระเอก” นายโสภณ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเตรียม 4 ขุนพล ที่จะชำแหละนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา นายโสภณ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ตนไม่ห่วงเรื่องชำแหละ แต่ห่วงว่า เราจะมีเวลาพอที่จะได้พิสูจน์การทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริงหรือไม่เพราะเวลา 4 เดือนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีการทำ MOA และรับปากกับพรรคที่พรรคที่สนับสนุนว่า จะยุบสภาใน 4 เดือน เชื่อว่าทำได้ แต่ในขณะเดียวกันวิกฤตของประเทศบางอย่างรอไม่ได้ และความเป็นรัฐบาลทุกวินาทีต้องทำเพื่อประเทศชาติ ต้องคู่กันไปกับการเดินหน้ายุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นรูปธรรม
ส่นภารกิจที่จะรับผิดชอบ นายโสภณ กล่าวว่า ตนไม่ถนัดเรื่องเศรษฐกิจ แต่ในเรื่องสังคม การศึกษา และยาเสพติดนั้นถือว่าเป็นงานที่สำคัญ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาของประเทศจริง ๆ ปัญหาเศรษฐกิจทุกวันนี้ หากมองให้ดี ก็เพราะคนเราไม่มีคุณภาพ ติดยา เด็กติดยาไม่เรียนหนังสือ ปัญหานี้ต้องแก้ไขเร่งด่วน ซึ่งตนสามารถทำได้แล้ว ในระยะ2ปีที่ตนเป็น สส.บุรีรัมย์ ได้เร่งแก้ปัญหายาเสพติดใน 6 อำเภอ ร่วมกับพระและภาคเอกชน และเห็นผลสำเร็จ โดยขอท้าสื่อมวลชนและหน่วยงานราชการไปดูที่อำเภอลำปลายมาศ อำเภอคูเมือง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ฯลฯ ซึ่งมีศูนย์บำบัด ติดตาม แยกผู้ป่วย และตนจะพาสื่อไปชม สิ่งที่ตนอยากเห็นคือการพัฒนาด้านการศึกษาและการแก้ปัญหายาเสพติด
นายโสภณ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 3 ปี เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 ครั้งและในตอนนั้นต้องยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สอบ แต่สุดท้ายผลการสอบก็ยกหมด ยืนยันว่าตนไม่มีเรื่องถูกชี้มูลใน ป.ป.ช. ส่วนใน ครม.นี้ จะมีใครถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบหรือไม่นั้น ทางนายกฯ ได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะท่านมีอนาคตทางการเมืองอยู่ ตนเชื่อว่านายกฯ มีกำแพงพิงที่จะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า แม้จะเป็นรัฐบาลแค่ 4 เดือน แต่ก็ไม่ควรนำชีวิตการเมืองไปผูกไว้
เมื่อถามว่าภาพลักษณ์ของ ครม.จะกระทบรัฐบาลหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ก็ต้องพิสูจน์กันในทางการเมือง นักการเมืองที่อยู่วังวนเคยร่วมงานกัน แต่ในส่วนตัว ความผิดต้องตัดสินด้วยกฎหมาย วันนี้ใครถูกกล่าวหาก็ต้องพิสูจน์ตามกระบวนการ แม้แต่นายกฯ เอง หากไม่เชื่อกฎหมายแล้ว เราจะอยู่กันอย่างไร และเชื่อว่าใครทำไว้สมัยนี้ไม่สามารถปิดได้ ใครทำอะไรรู้หมด ส่วนฝ่ายค้านจะทำอะไรก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา และหวังว่าสังคมจะให้ความยุติธรรม