ชาวพุทธจับตา! รัฐบาล "อนุทิน" สานต่อร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ใหม่ หวังฟื้นศรัทธาหลังวิกฤติสีกากอล์ฟ

ชาวพุทธจับตา! รัฐบาล
หลังวิกฤติศรัทธาจากกรณี "สีกากอล์ฟ"  สังคมพุทธหวังรัฐบาล "อนุทิน" เร่งผลักดันร่างกฎหมายคณะสงฆ์ใหม่ พร้อมบทลงโทษชัดเจนต่อพระภิกษุที่ประพฤติผิดวินัยร้ายแรง

จากกรณีที่เกิดปรากฏการณ์สีกากอล์ฟ ที่ทำให้พระผู้ใหญ่ระดับพระสังฆาธิการตั้งแต่พระครู จนถึงพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ไม่น้อยกว่า 13 รูป

ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับโทษฐานประพฤติผิดธรรมวินัยร้ายแรงถึงขั้นปาราชิก ต้องลาสิกขาออกไปตั้งแต่มิถุนายน 2568  สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวพุทธเป็นอย่างมาก  นั้น
รัฐบาลชุดที่แล้วก็ตกใจ จึงมีความพยายามหลายอย่างผ่าน กรรมการมหาเถรสมาคมเพื่อไม่ให้ศรัทธาประชาชนตกต่ำมากกว่านี้ จึงมีความประสงค์จะปรับปรุง พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2505 รวมทั้งการเคลื่อนไหว ว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริม และอุปถัมภ์คุ้มครอง พระพุทธศาสนา พ.ศ.. เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา โดยนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลั่นปากไว้ว่า จะต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว 

กาลเวลาผ่านไป 2-3 เดือน จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข่าวว่ามีความคืบหน้าอย่างไร จนกระทั่งเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ 32 ชาวพุทธจึงคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่นำโดยนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล จะสานต่อ ให้ร่าง พรบ.ส่งเสริม อุปถัมภ์คุ้มครองพุทธศาสนา พศ...และการแก้ไข พรบ.สงฆ์ 2505 ให้ผ่านรัฐสภาโดยเร็วเช่นกัน
 
การที่ชาวพุทธคาดหวังร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริม คุ้มครองและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา  พศ...นั้น เพราะมีสาระน่าสนใจมาก เช่นมีบทลงโทษทางอาญา พระภิกษุที่ต้องอาบัติปาราชิก หรือประพฤติผิดวินัย ร้ายแรงเป็นอาจิณ โดยกำหนดโทษให้จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 7 ปี

ปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนผู้สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณรจะเป็นหญิงหรือชาย หรือเพศสภาพใด  ต้องถูกลงโทษจำคุก 1-7 ปีและปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 140,000 บาท

อนึ่งผู้ใดทำให้พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระธรรมวินัยต้องมีมลทินมัวหมอง บุคคลผู้นั้น(พิสูจน์แล้ว) จะต้องโทษจำคุก 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 140,000 บาท 

ในขณะเดียวกันสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ไฟเขียวให้รัฐบาล (ชุดที่แล้ว) แก้ไขพระราชบัญญัติสงฆ์พ.ศ 2505 ให้ทันเหตุการณ์เพราะ พ.ร.บ. 2505 มีข้อบังคับ และแนวปฏิบัติเป็นส่วนมาก จะมีบทลงโทษทางอาญา เฉพาะกรณีที่จำเลยฝ่าฝืนคำวินิจฉัยกระบวนการนิคหกรรมหรือศาลสงฆ์ และเป็นอาบัติปาราชิกแต่ยังแต่งกายเป็นพระอยู่ รวมทั้งผู้ใดก่อให้เกิดความแตกแยกของคณะสงฆ์ต้องมีโทษทางอาญาเช่นกัน
 
ส่วนผู้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของกระบวนการนิคหกรรม แล้วสึกหาลาเพศไปก็ลอยนวลตามสบาย
 
ดังนั้นชาวพุทธจึงคาดหวังว่า ร่าง พรบ.ส่งเสริม คุ้มครองพระพุทธศาสนา และการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ 2505 จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คงทำเรื่องนี้ให้เป็นจริง ชาวพุทธเขารออยู่

โดยสมาน สุดโต
 
 

TAGS: #โผครม. #อนุทิน1 #ชาวพุทธ #ร่างพรบ.สงฆ์ใหม่ #สีกากอล์ฟ