รองนายกฯ–รมว.ดีอี เผยความคืบหน้านโยบายหลัก ตั้งแต่ดิจิทัลภาครัฐ ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ กฎหมายใหม่ จนถึง AI แห่งชาติ พร้อมฝากการบ้านให้ทีมใหม่เดินหน้าต่อ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายสำคัญที่กำลังดำเนินการ โดยย้ำว่าทุกโครงการที่ริเริ่มไว้ต้องมีคนมารับช่วงต่อ แม้การเมืองกำลังเปลี่ยนผ่านก็ตาม
ดิจิทัลภาครัฐ–ปราบไซเบอร์คุกคาม
นายประเสริฐกล่าวว่า กระทรวงกำลังเร่งผลักดันระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-Office) ให้ทุกกระทรวงใช้อย่างเต็มรูปแบบ บนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เพื่อทดแทนระบบเอกสารแบบเดิม ขณะนี้มีหน่วยงานเข้าร่วมแล้วกว่า 6,400 แห่ง มีผู้ใช้งานกว่า 1.89 ล้านราย และตั้งเป้าขยายต่อเนื่องภายในปีนี้
ด้านการปราบอาชญากรรมไซเบอร์ ศูนย์ AOC 1441 ซึ่งได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ จะเดินหน้าบูรณาการข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ บัญชีธนาคาร และข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อจัดการ “บัญชีม้า” และอาชญากรออนไลน์ได้รวดเร็วขึ้น
กฎหมายใหม่–เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม
กระทรวงยังผลักดันร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฉบับใหม่, พ.ร.บ.อุตุนิยมวิทยา และ พ.ร.บ.เศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยชี้ว่ากฎหมายเหล่านี้จะเป็นกลไกหลักในการกำกับดูแลธุรกิจดิจิทัลให้โปร่งใสและแข่งขันอย่างเป็นธรรม
บอร์ด AI–ยุทธศาสตร์ชาติ
อีกหนึ่งวาระสำคัญ คือการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน AI แห่งชาติ ที่เตรียมจัดครั้งที่ 3 ภายในเดือนกันยายนนี้ นายประเสริฐย้ำว่า ไม่ว่ารัฐบาลใดจะเข้ามา ก็ต้องเดินหน้าต่อ เพราะ AI ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของเศรษฐกิจไทย
รัฐวิสาหกิจ–บุคลากรดิจิทัล
ด้านรัฐวิสาหกิจ กระทรวงกำชับให้บริษัท NT เร่งพลิกฟื้นธุรกิจ ลดการขาดทุน ด้วยการสร้างรายได้จากบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ส่วนบริษัทไปรษณีย์ไทยยังคงมีกำไรเล็กน้อย
นายประเสริฐยังเตือนว่า บุคลากรด้านดิจิทัลของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ จึงต้องเร่งปฏิรูปการศึกษา และบรรจุหลักสูตร AI และดิจิทัลตั้งแต่ระดับประถมถึงอาชีวะ
“แม้ผมกำลังจะพ้นตำแหน่ง แต่ทุกเรื่องที่ริเริ่มไว้ต้องมีคนรับไม้ต่อ ประเทศไทยจะหยุดนิ่งไม่ได้” นายประเสริฐย้ำ
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเลือกนางศุภมาส อิศรภักดี อดีต รมว.อว. มานั่งเก้าอี้ รมว.ดีอี ในรัฐบาลชุดต่อไป