"ณัฐพงษ์" แถลง มติปชน. โหวตหนุน "อนุทิน" เป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 32

"ณัฐพงษ์" แถลง มติพรรคประชาชน โหวตหนุน "อนุทิน" เป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 32

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม โดยนายณัฐพงษ์ แถลงว่า ในช่วงระยะเวลาลังจากการประชุมผู้บริหารพรรค โดยระบุถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนตลอด 5 วันที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวการยุบสภาที่ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากพรรคเพื่อไทยพรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือ การคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจกำหนดอนาคตผ่านการยุบสภา เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ให้ได้รัฐบาลที่มีความชอบธรรม มีเสถียรภาพ และมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้คุณแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยงหากพรรคของดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ และนำไปสู่การรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปี หรืออาจเปิดทางให้หัวหน้าคณะรัฐประหารกลับมาเป็นนายกฯ หรือมีนายกฯ คนนอก ซึ่งขัดต่อหลักการที่พรรคยึดถือ

“หลังจากได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย รวมถึงรับฟังเสียงจากสมาชิกพรรค คณะทำงาน และผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชนจึงมีมติว่า หากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย”

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีเงื่อนไขสำคัญ 5 ประการ ที่พรรคภูมิใจไทยต้องยอมตกลงดังนี้: 1. นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

2. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จำเป็นต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะต้อง จัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป

3. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่จำเป็นต้องมีประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย จะต้อง เร่งผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้โดยเร็ว.

4. เพื่อเป็นหลักประกันว่านายกฯ คนใหม่จะยุบสภาภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อทำให้ตนเองเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก 

5. พรรคประชาชนจะยังคงดำรงสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้านต่อไป โดยทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ มติของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชนจะมีผลก็ต่อเมื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันนี้และมีถ้อยแถลงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ.ยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้มาจากความคิดเห็น ความนิยม หรือผลประโยชน์ของพรรค แต่มีเป้าหมายเพื่อ นำพาประเทศไปสู่ทางออกตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ป้องกันอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากแถลงข่าวเสร็จนายณัฐพงษ์ได้ลงนามข้อตกลงทั้ง 5  ข้อก่อนที่จะนำไปให้กับนายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงนามด้วย

TAGS: #อนุทิน #พรรคประชาชน #ณัฐพงษ์ #เท้ง #ปชน #พรรคภูมิใจไทย #นายกรัฐมนตรีคนที่32