ฉีกบัตรเลือกตั้ง ลุงชาวเชียงราย อ้างกาผิดคิดว่าขอเปลี่ยนบัตรใบใหม่ได้ ส่วนชายชาวอุดรฯ สารภาพไม่ได้ตั้งใจ-สายตาไม่ดีจำสลับกัน
รายงานจากเขตเลือกตั้งที่ 4 หน่วยที่ 6 บ้านแม่คาวโตน หมู่ที่ 6 อ.พาน จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้ควบคุมตัวผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หลังฉีกบัตรเลือกตั้งอยู่ในคูหาเลือก ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสมเกียรติ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ชาว ต.สันกลาง อ.พาน จ.เขียงราย โดยหลังก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้กักตัวเอาไว้ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
นายสมเกียรติ เบื้องต้นให้การว่า ขณะเข้าคูหา ตนใช้ปากกกากาที่ด้านหลังของบัตรเลือกตั้ง เมื่อรู้ว่ากาผิดจึงคิดว่าสามารถขอเปลี่ยนบัตรเลือกตั้งใหม่ได้จึงฉีกบัตรเลือกตั้งที่กาผิดทิ้งโดยไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัว นายสมเกียรติ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.พาน เพื่อสืบหาถึงสาเหตุของการฉีกบัตรเลือกตั้งที่แน่ชัด ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา จงใจทำบัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
ส่วนที่ จ.อุดรธานี ตำรวจควบคุมตัวนายสมพงษ์ อาย 61 ปี อยู่อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ฉีกบัตรเลือกตั้งสีม่วง เลือก สส.แบบแบ่งเขต โดยให้การรับสารภาพว่าฉีกบัตรเลือกตั้งสีม่วง จริง จึงควบคุมตัวไปโรงพัก นำส่งพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กุดจับ ทำการสอบสวนดำเนินคดี
นายสมพงษ์ ให้การรับสารภาพ ว่า ตนได้ฉีกบัตรเลือกตั้งสีม่วง เลือก ส.ส.แบบแบ่งเขตจริง โดยเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง สส. เพราะรีบไปดูที่นา เมื่อได้บัตรมา 2 ใบ สีม่วงกับสีเขียว ตนเข้าคูหากาบัตรสีเขียว พอจะกาบัตรสีม่วงกลับไม่มีเบอร์ที่ตนจะกา
เนื่องจากตนจำสลับกันระหว่างบัตรสีม่วงกับบัตรสีเขียว อีกทั้งสายตาตนก็ไม่ดี จึงฉีกบัตรสีม่วงกำเอาไว้ในมือ แล้วเดินไปหย่อนบัตรสีเขียว เสร็จแล้วตนเดินไปขอบัตรใหม่ แต่กรรมการประจำหน่วยบอกว่า ตนทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงเอาบัตรเลือกตั้งที่ตนฉีก หย่อนลงไปในหีบ ตนไม่ได้ตั้งใจทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตนไม่รู้จริงๆ จึงได้ฉีกบัตร
เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อหา ผิดมาตรา 144 ผู้ใดจงใจกระทำด้วยประการใดๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย เพื่อให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และให้ศาลสั่งเบิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 10 ปี ถ้าผู้กระทำความผิด ตามวรรคหนึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป