“พริษฐ์” ห่วง งบประมาณปี69 ขาดความคล่องตัว เหตุรัฐบาลจัดงบสะเปะสะปะ

“พริษฐ์” ห่วง งบประมาณปี69 ขาดความคล่องตัว เหตุรัฐบาลจัดงบสะเปะสะปะ
“ไอติม พริษฐ์“ มอง รัฐบาล ทำงานแบบ “แยกกันทำ แย่งกันทำ ย้ายออกไปทำ” ทำงบปี69สะเปะสะปะ เสี่ยง“งบประมาณไม่คล่องตัว”

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระ 2-3

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายมาตรา 4 ภาพรวมงบประมาณฯ ในฐานะคณะกรรมาธิการงบประมาณปี 2569 ระบุว่าเข้าใจดีว่ารัฐบาลเริ่มจัดสรรงบประมาณปี 2569 ตั้งแต่ก่อนที่จะมีวิกฤตภาษีตอบโต้สหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่ไม่สามารถเห็นด้วยได้คือ การที่คณะกรรมการงบประมาณซึ่งมีเสียงข้างมากมาจากตัวแทนรัฐบาลได้ทำน้อยเกินไปในการจัดลำดับความสำคัญงบ เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจที่ตามมากับข้อตกลงสหรัฐฯ และระเบียบโลกที่ไม่มีความแน่นอน ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อปากท้องของประชาชนในทุกภาคส่วน

เมื่อ 5 ปีที่แล้วคณะกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2564 จัดงบใหม่ 31,000 กว่าล้านบาท เพื่อเตรียมต่อกรกับวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหลังโควิด-19 แต่ในปีนี้คณะกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2569 มีการจัดงบประมาณใหม่เพียง 8,000 กว่าล้านบาท เพื่อต่อกรกับวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากกรณีภาษีตอบโต้สหรัฐฯ 

สิ่งที่ประเทศเราขาดมากที่สุดไม่ใช่ปริมาณงบประมาณ แต่คือประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณอย่างตรงจุดและคุ้มค่า  ไม่ว่าจะเปิดไปดูงบประมาณของกระทรวงไหนจะค้นพบงบประมาณบางส่วนที่ปรับลดได้ เพื่อโยกไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทั้งอาคารสำนักงานที่หรูหราหรือมีมากเกินจำเป็น งบในการพัฒนาแพลตฟอร์มแอพพลิเคชัป งบอบรมสัมมนาที่อาจจะไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

นายพริษฐ์ อภิปรายถึงปัญหาระบบราชการและการจัดทำงบประมาณของประเทศที่ส่งผลให้งบประมาณทุกกระทรวงตั้งไว้สูงเกินจำเป็น ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องความซ้ำซ้อน โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ปัญหาแยกกันทำ ปัญหาแย่งกันทำ และปัญหาย้ายออกไปทำ

ปัญหาแยกกันทำ หมายถึงความซ้ำซ้อนในระดับโครงการ มีโครงการที่เป็นประโยชน์และคาบเกี่ยวกับภารกิจของหลายหน่วยงาน แต่หน่วยงานกลับต่างคนต่างทำมากกว่าร่วมกันทำ ยกตัวอย่างแพลตฟอร์มยกระดับทักษะแรงงาน ลงทุนอย่างน้อย 12 แพลตฟอร์ม  ใน 12 หน่วยงาน คาบเกี่ยว 5 กระทรวง แต่ผ่านมา 1 ปี รัฐบาลไม่มีความพยายามที่จะควบรวมแพลตฟอร์มเหล่านี้ แต่กลับมีการเพิ่มแพลตฟอร์มอย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม ซึ่งไม่ได้มีฟีเจอร์ใหม่ที่แพลตฟอร์มเดิมทำได้

อย่างปีงบประมาณล่าสุดหลายหน่วยงานยังของบประมาณเพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่  เช่น สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และ สพฐ. ของบหลักพันล้านบาท เพื่อทำแพลตฟอร์มชื่อเดียวกัน Skill Credit Portfolio ซึ่งแพลตฟอร์มเดิมที่มีอยู่ก็มีการของบพัฒนาต่อยอดอีก 

ส่วนปัญหาแย่งกันทำ เป็นความซ้ำซ้อนในระดับภารกิจ หลายหน่วยงานมีการขีดเส้นและจัดวางภารกิจที่แตกต่างกันไม่ซ้ำซ้อนกันอย่างชัดเจน แต่ในทางปฏิบัติหลายหน่วยงานกับมีการขยายภารกิจที่เสี่ยงจะไปซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงพาณิชย์ แม้จะมี 3 กรมที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าระหว่างประเทศ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แต่ในเชิงปฏิบัติพบว่าปีนี้กรมการค้าระหว่างประเทศจะมีการตั้งงบประมาณ 10-20 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวอินทรีย์และมันสำปะหลัง ดูแล้วน่าจะเป็นภารกิจของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมากกว่า

ปัญหาย้ายออกไปทำ เป็นความซ้ำซ้อนในระดับหน่วยงาน การที่เรามีหลายหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อภารกิจ  เสี่ยงที่จะซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างการทำงานที่คาบเกี่ยวกับสำนักงานปลัดของแต่ละกระทรวง ภารกิจอย่างหนึ่งคือ แผนและนโยบาย สำนักงานปลัด 18 แห่งจาก 20 แห่งมีการระบุว่าจะทำแผนและนโยบาย ซึ่งอยู่ในพันธกิจของหน่วยงาน แต่ในความเป็นจริงหลายกระทรวงกลับมีหน่วยงานอื่นในระดับกรมที่ถูกตั้งแยกออกมาเพื่อรับผิดชอบเรื่องแผนและนโยบาย

ในจำนวนนี้ 4 กระทรวงมีสำนักนโยบายและแผนตั้งแยกออกมาเป็นหน่วยงานระดับกรม 3 กระทรวงมีสำนักงานเศรษฐกิจ และ 1 กระทรวงมีสำนักงานกิจการ พูดถึงภารกิจและพันธกิจการจัดทำแผนและนโยบาย 2 กระทรวงมีหน่วยงานแบบสภาฯ มารับผิดชอบเรื่องนโยบายเช่นเดียวกัน

นายพริษฐ์ เข้าใจว่าการพิจารณาควบคุมหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งต้องศึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบแม้จะมีการควบรวมหน่วยงาน ไม่ได้หมายความว่า จำนวนคนจะลดลงเสมอไป แต่เชื่อว่าหากเรามีการศึกษาและพิจารณาควบรวมหน่วยงานที่มีภารกิจเสี่ยงจะซ้ำซ้อนกันอย่างจริงจัง จะทำให้โครงการและกิจกรรมของรัฐมีความสะเปะสะปะน้อยลงก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรมากขึ้น เราจะทำให้หน่วยงานของรัฐมีการผลิตแผนขึ้นหิ้งน้อยลง และทำงานในทิศทางเดียวกันมากขึ้น

ดังนั้น หากเราไม่เริ่มต้นปรับปรุงเรื่องการทำงบประมาณโดยการลดความซ้ำซ้อนที่แทรกอยู่ในทุกระดับของระบบราชการ ประเทศเราจะเสี่ยงที่จะไม่เหลืองบประมาณเพียงพอในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประชาชน เสี่ยงไม่มีความคล่องตัวมากพอในการรับมือกับวิกฤตและปัญหาใหม่ ๆ ที่ถาโถมเข้ามา

TAGS: #งบประมาณแผ่นดิน #ข่าวการเมือง #พรรคประชาชน #เศรษฐกิจ