ชายแดนเดือด! ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ปะทะต่อเนื่อง ฝ่ายกัมพูชายกระดับใช้รถถัง-ปืนใหญ่ ขณะที่ไทยเร่งอพยพประชาชนกว่า 6 หมื่นคน พร้อมตั้งโรงครัวพระราชทานช่วยเหลือเต็มกำลัง
ตามที่เกิดเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์และผลการปฏิบัติในภาพรวม ดังนี้:
สถานการณ์ในพื้นที่สู้รบ
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ก.ค. 68 ฝ่ายกัมพูชาใช้ยุทธวิธีนำกำลังทหารราบเข้าประชิดแนวของฝ่ายไทย เพื่อขัดขวางการใช้อาวุธสนับสนุน พร้อมทั้งระดมรถถังและอาวุธยิงระยะไกลโจมตีพื้นที่ส่วนหลังของเรา
มีการปะทะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่สำคัญ ได้แก่:
- ซำแต / ช่องตาเฒ่า / ปราสาทตาเมือน – ฝ่ายตรงข้ามพยายามโจมตีต่อเนื่อง ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยปืนใหญ่
- ช่องบก – มีการยิงตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่และ BM-21
- ช่องอานม้า – ปรับกำลังควบคุมตามแนวเส้นเขตแดน
- ภูมะเขือ / วัดแก้ว (พระวิหาร) – ปะทะระยะประชิด ฝ่ายไทยเข้าตี-ข้าศึกยิงตอบโต้
- ช่องจอม (อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์) – ยิงสนับสนุนโต้ตอบกันทั้งสองฝ่าย
- ปราสาทตาควาย / ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) – ข้าศึกเสริมกำลังจำนวนมาก ฝ่ายไทยต้องปรับแผนรับมือ
การอพยพประชาชน
มีการจัดจุดอพยพประชาชนรวม 131 จุดใน 4 จังหวัดชายแดน รวมจำนวนผู้ที่อพยพแล้วทั้งสิ้น 63,446 คน ดังนี้:
- จ.บุรีรัมย์: 1 จุด, 4,813 คน
- จ.สุรินทร์: 20 จุด, 21,646 คน
- จ.ศรีสะเกษ: 43 จุด, 26,511 คน
- จ.อุบลราชธานี: 67 จุด, 10,476 คน
ผลกระทบต่อประชาชน
- จ.สุรินทร์: ต.ตาเมียง, ต.บักได, ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก ถูกกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่
- จ.อุบลราชธานี: ต.ศรีวิเชียร อ.น้ำยืน บ้านเรือนเสียหาย 4 หลัง
- จ.ศรีสะเกษ: ต.รุง, ต.เมือง, ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ ถูกกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่
- ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากประชาชน
การช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์
จัดกำลัง จิตอาสาพระราชทาน และจิตอาสา 904 รวม 2,318 นาย ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 4 จังหวัดหลัก ตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ ได้แก่:
- จ.บุรีรัมย์: สนามช้างอารีน่า
- จ.สุรินทร์: มทร.อีสาน วิทยาเขตสุรินทร์, ม.ราชภัฏสุรินทร์, อบต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท
- จ.ศรีสะเกษ: วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์, รร.ตระกาศประชาสามัคคี
- จ.อุบลราชธานี: ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม
แถลงการณ์จากกองทัพภาคที่ 2
กองทัพบกยังคงยืนยันว่าการปฏิบัติของไทยเป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ ตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ มิใช่การรุกรานตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้าง
จึงขอเรียกร้องให้กัมพูชา ยุติการกระทำที่ละเมิดอาณาเขต และเข้าสู่กระบวนการเจรจาโดยสันติ รวมถึงเสนอให้ยื่นเรื่องให้ศาลโลกพิจารณา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ในฐานะมิตรประเทศต่อไป