"พิธา"แจงถือหุ้นไอทีวีเป็นกองมรดกเชื่อเกมสกัดทางการเมืองหลังพุ่งแรง

"พิธา"แจงปมถือหุ้นสื่อไอทีวีเป็นของกองมรดกแจ้งปปช.ไปแล้วเชื่อเกมสกัดหลังพรรคก้าวไกลมาแรงมั่นใจไม่มีอะไรจะมาขัดขวางก้าวไกลได้อีกแล้ว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อมวลชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) กรณีที่พิธาถือหุ้น ITV มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ความว่า ต่อกรณีหุ้น ITV ผมไม่มีความกังวลเพราะ ไม่ใช่หุ้นของผม เป็นของกองมรดก ผมเพียงมีฐานะเป็นผู้จัดการมรดก และได้ปรึกษาและแจ้งต่อ ป.ป.ช. ไปนานแล้ว

ทีมกฎหมายพร้อมเตรียมการชี้แจงอยู่แล้วเมื่อ กกต.ส่งคำร้องมา เรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัด #พรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ต้องการเห็นการ #ทลายทุนผูกขาด ในประเทศนี้”

นายพิธา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลมาแรงที่สุด ย่อมเป็นธรรมดาที่จะถูกสกัด แต่ขอให้ผู้สมัคร ทีมงาน หัวคะแนนธรรมชาติ และประชาชนผู้สนับสนุนทุกคน อย่าหวั่นไหว อย่าเสียสมาธิกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตนขอให้ทุกคนมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางก้าวไกลเราได้อีกแล้ว

ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนได้ตรวจสอบพบข้อมูลที่น่าเชื่อว่า นายพิธา ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งเป็นมูลเหตุที่ต้องทำการเสาะหาข้อมูลอยู่หลายวัน จนเพียงพอที่จะขอให้กกต. ตรวจสอบต่อไป ใน 5 ประเด็น ดังนี้ ข้อ 1.รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) บัญญัติว่า “มาตรา 98 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร … (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ”

ข้อ 2. ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อมูลเมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ทำให้เข้าใจว่า นายพิธา ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในลำดับที่ 6,121 เลขทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ 4030954168 ที่อยู่ 98/26 อาคารซิลเวอร์เฮอริเทจ ซอยสุขุมวิท 38 ถนนสุขุมวิท พระโขนง คลองเตย 10110 สัญชาติ ไทย จำนวน 42,000 หุ้น ข้อ 3. เมื่อตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ที่ระบุไว้บางส่วน ดังนี้ สถานะนิติบุคคล : ยังดำเนินกิจการอยู่ ,หมวดธุรกิจตอนจดทะเบียน : การออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง(ยกเว้นทางออนไลน์) ,วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน : สถานีโทรทัศน์ , หมวดธุรกิจ : กิจกรรมเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ ,ปีที่ส่งงบการเงิน : 2564 2563 2562 2561 2560

ข้อ 4. เมื่อขอข้อมูล บัญชีรายขื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ณ วันที่ 27 เม.ย.65 นายพิธาเป็นผู้ถือหุ้นในลำดับที่ 7,138 จำนวน 42,000 หุ้น เลขที่ใบหุ้น 06680180285422 มูลค่าหุ้นละ 5 บาท และ ข้อ 5. เมื่อตรวจสอบข้อมูลบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จากเว็บไซต์ พบว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการรับจ้างโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทุกชนิดทุกประเภท มีรายได้ปี 65 รวม 21 ล้านบาท และมีรายได้ปี 64 รวม 24 ล้านบาท โดยบริษัทมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 66 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66

นายเรืองไกร กล่าวว่าจากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบนายพิธา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่าเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

ทั้งนี้ ตนเองจะขอให้ กกต. รีบตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยด่วนว่า นายพิธาถือหุ้นจำนวนดังกล่าวมาตั้งแต่เมื่อใด หากถือมาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 จะเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมาก่อนหรือไม่ การเป็น ส.ส. ที่ผ่านมาจะชอบหรือไม่ เมื่อย้อนไปตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 นายพิธาแจ้งเงินลงทุนไว้ 45 รายการ แต่ไม่พบลงทุนในหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด ซึ่งที่อยู่ที่นายพิธาแจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. สอดคล้องกับที่อยู่ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าว โดยในวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือที่ กกต. ด้วยตนเอง

TAGS: #พิธา #หุ้นสื่อไอทีวี #ก้าวไกล #เรืองไกร #เลือกตั้ง66