ศาลฎีกาไต่สวนพยานบุคลากรแพทย์ 5 ราย คดีอดีตนายกฯ รักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ ขณะทนายเตรียมเอกสารประวัติการรักษาต่างประเทศ ยืนยันเจ็บป่วยมีมูลจริง
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานในคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
การไต่สวนวันนี้เน้นสอบปากคำบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลรวม 5 ปาก อาทิ แพทย์เวร พยาบาลจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ทหาร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงเที่ยง
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ เปิดเผยว่า ได้จัดเตรียมข้อมูลประวัติการรักษาในต่างประเทศมายื่นประกอบการพิจารณา แม้เป็นข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลที่ถือเป็นความลับตามกฎหมาย และนายทักษิณขอสงวนสิทธิ์ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ความร่วมมือกับศาล จึงนำหลักฐานดังกล่าวมายืนยันว่าอาการเจ็บป่วยมีมูลจริง ไม่ใช่การกล่าวอ้างลอยๆ
นอกจากนี้ นายวิญญัติกล่าวว่า ได้ขอเพิ่มบัญชีพยานอีก 10 ปาก แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากรอให้ศาลพิจารณาก่อนว่าจะอนุญาตหรือไม่ พร้อมกันนี้ได้เตรียมเอกสารประวัติการรักษาฉบับสมบูรณ์มาสนับสนุนข้อมูลเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์การไต่สวน โดยให้สัมภาษณ์ว่า ติดตามคดีนี้มานานและเห็นว่าหลังไต่สวนจะมีความชัดเจนมากขึ้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ากฎหมายราชทัณฑ์ มาตรา 55 ซึ่งกำหนดเรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษา มีเนื้อหาขัดแย้งกับกฎกระทรวงในบางประเด็น จึงมาฟังการไต่สวนเพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่าง
นพ.วรงค์ ระบุว่า เคยได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แม้ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่ย้ำว่ามีขบวนการบางส่วนพยายามสร้างความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เขาขอบคุณศาลฎีกาที่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้และติดตามไปจนถึงวันที่มีคำพิพากษา
ด้านสำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะโจทก์ มีนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เดินทางมาพร้อมเอกสารเพื่อชี้แจงต่อศาล แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีทันที