“ชูศักดิ์” เชื่อ นับองค์ประชุม เป็นเกมการเมือง รับ คิดถอนร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ เหตุปรับ ครม.ใหม่ ต้องคุยให้สะเด็ดน้ำก่อน
ที่ทำเนียบรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้วนั้น
การประชุมครั้งนี้เริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น. และต่อมาในเวลา 13.39 น. นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูณย์ พรรคพลังประชาชนได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุมก่อนที่มีการรับรายงานของหน่วยงานต่างๆ ส่งผลให้รัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในคณะรัฐมนตรี ต้องรีบออกจากห้องประชุม และเดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุม
ทั้งนี้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล รองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่การประชุมได้สั่งปิดประชุมไปก่อนที่จะมีการแสดงผล เนื่องจากมีสมาชิกแสดงตนเพียง 187 คนเท่านั้น ทำให้การประชุมสภา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมปีที่ 3 ได้จบลงในเวลา 13.58 น.
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปกติเวลาจะนับองค์ประชุมก็มักจะมีกรณีขัดแย้งเรื่องต่างๆ แต่เท่าที่ฟัง ครั้งนี้เขาขอนับเลย ซึ่งโดยปกติวันพฤหัสบดีคนจะน้อยอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องกระทู้ถาม และ สส. มักจะออกไปประชุม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และหากเจอเกมแบบนี้ หลังจากนี้สภาจะไปต่อได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นบทเรียนว่าหลังจากนี้เขาจะนับองค์ประชุมทุกเวลา ส่วนจะรับมืออย่างไรนั้น ก็ต้องให้ สส.มา ยืนยันว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ครบ และ ได้บอกกับรัฐมนตรีของพรรคว่า วันพุธและพฤหัสบดีให้เอางานไปทำที่สภาเลย ถือว่าวันนี้เป็นอุทาหรณ์ ต้องไปปรับกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีวลีว่า หน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล ชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็ถูก แต่โดยปกติวันพฤหัสบดีจะไม่ค่อยคำนึงถึงองค์ประชุมกันเท่าไหร่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้เรื่ององค์ประชุมจะเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ ก็ถือเป็นบทเรียนไปปรับกระบวนท่า ส่วนมองว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองมากไปหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่จะคิด แต่ย้ำว่า การนับองค์ประชุมเกิดจากความขัดแย้ง ตกลงกันไม่ได้ จึงเอาชนะกันด้วยองค์ประชุม
นอกจากนี้ นายชูศักดิ์ ยังเปิดเผยถึง วาระพิจารณาร่างกฎหมายของสภาในสัปดาห์หน้า ว่า พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กำลังคิดอยู่ว่าจะขอเลื่อน หรือ ถอนไปก่อน ซึ่งการถอนนั้น โดยปกติต้องขอมติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่หากสภาไม่ติดใจ ก็ถอนไปเลย เหตุผลที่จะถอนเพราะ สถานการณ์แบบนี้รัฐบาลคงคิดว่า มีการปรับคณะรัฐมนตรีและมีรัฐมนตรีใหม่เข้ามา จึงควรนำเรื่องนี้มาคุยกันให้สะเด็ดน้ำก่อน และมาเช็กดูว่ามันพอเพียงหรือไม่
เมื่อถามว่า ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม จุดยืนของฝั่งรัฐบาลคือ ต้องไม่มีมาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า พรรคคุยกันอยู่ กำลังขอมติพรรคร่วม