หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศชัด ไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับ "อนุทิน" ที่เสนอตัวเป็นนายกฯชั่วคราว ย้ำถ้าจำเป็นต้องโหวตปลดล็อกการเมืองเพื่อให้ประเทศเดินหน้า ต้องมีเงื่อนไขยุบสภาทันที ชี้โจทย์ใหญ่กว่าคือแก้รธน.
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ “เท้ง” หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ตอบคำถามเกี่ยวกับสมมุติฐานที่มีข้อถกเถียงว่า หากรักษาการนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาได้หรือไม่ จนทำท่าว่าสถานการณ์ทางการเมืองอาจถึงทางตันว่า หากถึงจุดที่จำเป็น พรรคประชาชนอาจโหวตสนับสนุนเพื่อปลดล็อก แต่มีเงื่อนไขชัดว่าหากใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ต้องยุบสภาทันที
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า โจทย์หลักของพรรคประชาชนไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาการเลือกนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ต้องการ “ปลดล็อกทางการเมือง” ทั้งระบบ พร้อมย้ำจุดยืนว่า พรรคจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล และขณะนี้ยังไม่มีแนวทางจะโหวตเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ได้กล่าวยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทยได้ประสานมาหลังบ้านชวนมาเป็นรัฐบาลด้วยกัน แต่ระดับหัวหน้ายังไม่มีการคุยกัน เมื่อถูกถามว่า นายอนุทินเสนอตัวแล้วหรือ นายณัฐพงษ์เปิดเผยว่า มีการสื่อสารออกมาว่า เขาพร้อมจะเป็นนายกฯชั่วคราว ถ้าจำเป็นต้องปลดล็อกจริง ๆ ให้ประเทศเดินไปได้ แต่เขาก็ไม่ได้อยากจะเป็นเต็มวาระ ซึ่งยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดขนาดนั้น แต่พรรคประชาชนชัดเจนว่า เราไม่ไปเป็นรัฐบาลแน่นอน
“เรามองว่าถึงวันหนึ่ง ถ้ามีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น ประเทศไทยมีทางออกแน่นอน แต่แค่การปลดล็อกนายกฯ ไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือการปลดล็อกโครงสร้างทางการเมือง ซึ่งต้องรอให้สถานการณ์เดินไปชัดเจนกว่านี้ก่อน” นายณัฐพงษ์กล่าว
ประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ย้ำว่า เป็นโจทย์ใหญ่ที่ควรถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาควบคู่ เช่น การจัดทำประชามติ การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แม้อาจถูกใช้เป็นเงื่อนไขต่อรองทางการเมืองในช่วงนี้
ด้านนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้สภาผู้แทนราษฎรต้องการทำประชามติแบบชั้นเดียว แต่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยืนยันให้ใช้แบบสองชั้น ซึ่งทำให้ใคร ๆ ก็เห็นว่า ส.ว. ไม่ร่วมแก้รัฐธรรมนูญง่าย ๆ เพราะตามรัฐธรรมนูญต้องใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ร่วมด้วย
นายณัฐพงษ์ตอบว่า “อยู่ที่ว่าเราประเมินว่าใครเป็นผู้ควบคุมเสียง ส.ว.อยู่ ซึ่งเรารู้กันดี และถ้าวันหนึ่งจะมีใครขึ้นเป็นนายกฯ ที่ไม่ใช่จากฝั่งเพื่อไทย ก็อาจต้องมีเงื่อนไขบางอย่างเพื่อปลดล็อกทางการเมืองในภาพใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องเลือกนายกฯ”
เมื่อถูกถามย้ำว่า หากจะมีนายกฯ เฉพาะกิจขึ้นมาจะต้องไม่ใช่แค่บริหารชั่วคราว แต่ต้องเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ลบมรดกรัฐธรรมนูญที่สร้างความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งเรื่องตุลาการภิวัฒน์และนิติสงคราม นายณัฐพงษ์ตอบสั้น ๆ ว่า “ครับ”
สุดท้าย นายณัฐพงษ์ย้ำชัดว่า พรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับการที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ และไม่เห็นด้วยกับแนวทางการใช้คำร้องกรณีฝ่าฝืนจริยธรรมของนักการเมืองในทุกกรณีที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า หากจะแก้ปัญหานี้ได้จริง ต้องกลับไปแก้ที่ตัวรัฐธรรมนูญเอง