ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ ตีตกคดียุบพรรคภูมิใจไทย ปมเอี่ยวฮั้วเลือกสว.

ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ ตีตกคดียุบพรรคภูมิใจไทย ปมเอี่ยวฮั้วเลือกสว.
ศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้อง ยุบพรรค "ภูมิใจไทย" ปมฮั้วเลือกสว. ชี้ ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

จากกรณี นายณฐพร โตประยร (ผู้ร้อง) ยืนคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 59 กล่าวอ้างว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 1) และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 2) จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามรัฐธรรมนูญและกุฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และเอื้อประโยชน์ให้พรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 3) กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) สมาชิกวุฒิสภา รายชื่อปรากฏตามสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ผู้ถูกร้องที่ 5 ) นายเนวิน ชิดชอบ (ผู้ถูกร้องที่ 6) นางกรุณา ชิดชอบ (ผู้ถูกร้องที่ 7) นายทองเจือ ชาติกิจเจริญ กับพวก

(ผู้ถูกร้องที่ 8) นายศุภชัย โพธิ์สุ (ผู้ถูกร้องที่ 9) นางสาววาริน ชิณวงศ์ (ผู้ถูกร้องที่ 10) นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ (ผู้ถูกร้องที่ 11) และนายสุบิน ศักดา (ผู้ถูกร้องที่ 12) ร่วมกันกระทำการโดยทุจริตในกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ผู้ถูกร้องที่ 3 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 เป็นผู้ดำเนินการวางแผนและควบคุมกระบวนการทุจริตการเลือก สมาชิกวุฒิสภา ทำให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน ๑๓๘ คน และสำรองอีก จำนวน ๒ คน อันเป็นการกระทำ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และกระทำการ อันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผู้ถูกร้องที่ 5 และที่ 8 ถึงที่ 12 เป็นผู้ดำเนินการตามแผนการทุจริตการเลือกสมาชิกวุฒิสภภา ดังกล่าว อันเป็นผลให้ผู้ถูกร้องที่ 5 ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ด้วยความไม่เป็นกลางทางการเมือง ไม่ชื่อสัตย์สุจริต และไม่เป็นเป็นไปตามกฎหมาย

การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงที่ 12 มีความเชื่อมโยงกันและร่วมกันทำเป็นขบวนการให้ได้มาซึ่ง สมาชิกวุฒิสภาเพื่อใช้อำนาจปกครองประเทศโดยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อให้ใด้มาซึ่งอำนาจ ในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมีได้เป็นไปตานวิถีทางที่บัญญัติใว้ไปรัฐธรธรรมนูญ

ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568แต่อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 59 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูถเพื่อขอให้ศาลรัฐธธรรมนญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 59โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงที่ 12 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสั่งให้เลิกการกระทำดังกล่าว และสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 2 5 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย (รายชื่อตามสำนวนการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง) หยุดปฏิบัฏิบัติหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง จนกว่าจะมีคำวิมีคาวินิจฉัย

ผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเพิ่มเติมและเอกสารประกอบปรากฏว่า การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงที่ 12 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เป็นการกล่าวอ้างว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาและความผิดทางอาญา การกระทำดังกล่าวอยู่ภายใต้การตรวจสอบและดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้องตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

TAGS: #ภูมิใจไทย #ข่าววันนี้ #ข่าวการเมือง #ฮั้วสว #คดีทางการเมือง