“พรรคประชาชน” เหน็บพรรคร่วมฯ ต่อรองเก้าอี้ มากกว่าเอาปัญหาประเทศ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของรัฐบาลภายหลังมีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า จากหน้ากระดานที่เป็นอยู่ ตัวนายกรัฐมนตรีสูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว และการลาออกคงไม่ใช่ทางเลือกด้วยสมการที่เป็นอยู่ ตนคิดว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว ทางออกเดียวคือการยุบสภา จากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ ตนเชื่อว่าเลือกมาแล้วก็ไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ปัญหาสำคัญเช่นการปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องอื่นๆ การรวมตัวกันของรัฐบาลที่เหลืออยู่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองปฏิกิริยาการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คงต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด เห็นจากการสื่อสารเมื่อวานนี้ ที่บอกว่าต้องไปคุยกับนายกรัฐมนตรี คงจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าการเอาประเด็นปัญหาของประเทศเป็นหลัก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้เห็นผลประโยชน์ของพรรคตัวเองมากกว่าประเทศใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นบริบททางการเมืองที่ผ่านมา พรรคประชาชนเคยอภิปรายสื่อสารแบบนี้มาก่อนแล้ว เช่น การอภิปรายงบประมาณว่าเราอยากเห็นการจัดสรรงบประมาณที่เป็นประโยชน์กับประเทศ แต่กลายเป็นว่าทุกครั้งจังหวะก้าวทางการเมืองเป็นการต่อรองตำแหน่งและผลประโยชน์มากกว่า ที่เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วง จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้องว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของประเทศ
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลรวมกันไม่ได้พรรคประชาชน จะรวมกับพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต เป็นนายกฯหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เรายืนยันมาโดยตลอดว่าในหน้ากระดานที่เป็นอยู่ เราไม่สามารถสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ต่อ ณ ตอนนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จึงยืนยันในจุดยืนเดิมว่าเราอยู่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า นายกฯจะลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เพื่อทำภารกิจกับแม่ทัพภาคที่ 2 จะสยบรอยร้าวได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯสมควรทำอยู่แล้ว ต้องพยายามให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ และมีบทบาทนำกองทัพ ตนคาดหวังว่านายกฯจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีการชุมนุมตอนนี้จะมีสิ่งเร้าให้เกิดการเล่นนอกกติกาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าประชาชนอยากให้เปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ แต่การเปลี่ยนตัวมีหลายช่องทาง ช่องทางที่เราไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เกิดมากที่สุด คือการเรียกร้องให้เกิดอำนาจนอกระบบจนเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ช่องทางอื่นยังมีเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยสมการการเมืองยังไม่เปลี่ยน ได้รัฐบาลคล้ายเดิม เพียงแต่หัวผู้นำประเทศ แต่ไม่สามารถพลักดันแก้ไขปัญหาประเทศได้ หากประชาชนต้องการทางออกจริงๆ ตนคิดว่าการเลือกตั้งใหม่ ให้เสียงของประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคตประเทศจะเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุด
เมื่อถามว่าได้คุยกับฝ่ายค้านกลุ่มใหม่ที่จะมีอยู่ร่วมกันแล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้มีการนัดเฉพาะกิจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งฝ่ายค้านในสภาฯก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหมายถึงพรรคภูมิใจไทยที่เข้ามาล่าสุด ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆอย่างเป็นทางการ
ถามต่ออีกว่า หากรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอาจจะมีการซื้องูเห่าเพิ่ม ได้เน้นย้ำคนในพรรคประชาชนหหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำใดๆ ตนมั่นใจในเพื่อนร่วมพรรค
ส่วนถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเปลี่ยนตัวนายกฯเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย และหากรัฐบาลไม่ตอบรับจะเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูสมการ ณ ตอนนี้ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย คือ 2 ใน 3 ต้องรวมตัวกันได้ถึงจะได้เสียงข้างมากเดินหน้าต่อ แต่จุดยืนของพรรคประชาชน ชัดเจนว่าเราไม่ร่วมรัฐบาล ฉะนั้น สภาพที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมา จึงเกิดสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ตนคิดว่าเป็นวิ่งที่ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น