ภูมิใจไทยลั่นไม่ทน! เตรียมฟ้องกลับ กกต. ปมข้อกล่าวหาฮั้วเลือก สว. ปกป้องศักดิ์ศรีพรรค 

ภูมิใจไทยลั่นไม่ทน! เตรียมฟ้องกลับ กกต. ปมข้อกล่าวหาฮั้วเลือก สว. ปกป้องศักดิ์ศรีพรรค 
โฆษกพรรคภูมิใจไทยแถลงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่มีใครในกรรมการบริหารพรรคเกี่ยวข้องกับกรณีฮั้วเลือก สว. ชี้ไม่มีหลักฐานชัดเจน เตรียมฟ้องกลับคณะกรรมการชุดที่ 26 ของ กกต.

เวลา 18.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย หรือ "แนน" ส.ส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรค กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 มีหนังสือเรียกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและให้การชี้แจงเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

ยันทุกคนไม่เกี่ยวข้อง – ไม่เคยฝ่าฝืนกฎหมาย

โฆษกพรรคระบุว่า หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร รวมถึง ส.ส.ทุกคน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก ส.ว. และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน พร้อมยืนยันว่า หัวหน้าพรรคได้กำชับตั้งแต่ปี 2567 ว่าห้ามกรรมการบริหารและ ส.ส. ดำเนินการใด ๆ ที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยสมาชิกพรรคทุกคนปฏิบัติตามเจตนารมณ์นี้อย่างเคร่งครัด

4 ข้อกล่าวหา “ร้ายแรง-ไร้รายละเอียด”

สำหรับข้อกล่าวหาทั้ง 4 ประเด็น ได้แก่  การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเลือกผู้สมัครในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ  การจ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าใช้จ่ายในการเลือก ส.ว.  การทำ “โพยฮั้ว” เพื่อเลือก ส.ว. 

โฆษกระบุว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้ร้ายแรง เพราะถูกมองว่าเป็นการบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยฯ  แต่การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้กลับไม่มีรายละเอียด ไม่มีการระบุพฤติกรรม สถานที่ หรือวันเวลาชัดเจน แตกต่างจากแนวปฏิบัติของ กกต. ที่ผ่านมาอย่างมาก

พาดพิงดีเอสไอ – สงสัยมีการชี้นำการสอบสวน

น.ส.บุณย์ธิดา ยังตั้งข้อสังเกตว่า รายละเอียดในหนังสือข้อกล่าวหาใกล้เคียงกับการร้องเรียนของ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ส.ว.สำรอง และนายณฐพร โตประยูร ที่เคยให้ข้อมูลแก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนหลายครั้ง ซึ่งมีพนักงานดีเอสไอถึง 3 คนร่วมอยู่ในคณะอนุกรรมการชุดนี้ด้วย

เธอชี้ว่า อาจมีความพยายามแทรกแซงหรือชี้นำการทำงานของคณะสอบสวน และตั้งข้อสงสัยว่า ข้อกล่าวหานี้อาจเป็นหนึ่งใน “แผนยุบพรรคภูมิใจไทย” โดยมีการกระทำเป็นขบวนการจากทั้งบุคคลที่เปิดเผยตัวและบุคคลที่ยังไม่เปิดเผย

พร้อมดำเนินคดีแจ้งความเท็จ – ไม่มีใคร “นับหนึ่งใหม่” ได้อีกแล้ว

พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิ์และเกียรติยศของพรรคและบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมเดินหน้าดำเนินคดีผู้แจ้งความเท็จให้ถึงที่สุด

เมื่อถามถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โฆษกพรรคเผยว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวภายในพรรค และย้ำว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ยังคงมุ่งมั่นทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมองว่า ช่วงเวลานี้ไม่เหมาะสมกับการปรับ ครม. เพราะประชาชนกำลังเผชิญปัญหาด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และภัยพิบัติ ซึ่งไม่อาจรอให้ใคร “นับหนึ่งใหม่” ได้อีก

โฆษกปัด “มีชื่อโดนเรียก” – ชี้เล่นงานเฉพาะ กก.บห.

เมื่อถูกถามว่ามีชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถูกเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ น.ส.บุณย์ธิดา ยืนยันว่า “ไม่มีหมายเรียก” ชี้ว่าตำแหน่งโฆษกไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค และการเรียกในครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่กรรมการบริหารพรรคโดยเฉพาะ

สุดท้าย โฆษกพรรคกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจะขอยืนยันสิทธิ์ทางกฎหมายเพื่อปกป้องเกียรติของหัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคทุกคน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาหลายฉบับมีความไม่สมบูรณ์ ทั้งเนื้อหาและรูปแบบ โดยย้ำว่า “แม้จะถูกโจมตีด้วยเกมการเมือง แต่พรรคจะยืนหยัดในหลักประชาธิปไตยและรักษาเกียรติของพรรคไว้ให้ถึงที่สุด”
 

TAGS: #พรรคภูมิใจไทย #ฮั้วเลือกสว. #กกต. #อนุทิน #กรรมการบริหารพรรค #คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางคณะที่26 #ดีเอสไอ #สว.สำรอง