“ ธนกร ” แนะรัฐบาลผนึกกำลังกองทัพ ปรับยุทธศาสตร์เจรจาระหว่างประเทศใหม่
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวว่า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบวงกว้าง และเป็นเรื่องของคนทั้งชาติที่ประชาชนมีข้อกังวลมาก เกรงว่าไทยจะเพลี่ยงพล้ำให้กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมาไทยออกแถลงการณ์ช้ากว่ากัมพูชาไปถึง 7 วัน ประกอบกับเมื่อดูปฏิกิริยาของฝั่งกัมพูชาแข็งกร้าว ไม่ยอมเจรจาแบบทวิภาคีระหว่างกัน มุ่งแต่จะขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลกเท่านั้น ถือว่าผิดข้อตกลงใน MOU2543 ชัดเจน
นายธนกร กล่าวต่อว่าอีกว่า ตนจึงมองว่ารัฐบาลควรเป็นหนึ่งเดียวกับกองทัพ โดยให้ทางทหารเป็นผู้ประเมินสถานการณ์หลัก ควรปรับยุทธศาสตร์การเจรจาระหว่างประเทศกับกัมพูชาใหม่ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตนขอสนับสนุนให้ตั้งทีมสื่อสารการเมืองและการทหารระหว่างประเทศขึ้น เพื่อให้การสื่อสารมาจากทีมเดียวและชัดเจน สร้างความเข้าใจความเชื่อมั่นให้คนไทย มีการอัพเดทสถานการณ์รวดเร็วและเป็นข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้ทราบ ป้องกันการใช้ประเด็นนี้โจมตีทางการเมืองในประเทศด้วย
นอกจากนี้ นายธนกร ยังเสนอว่า ขอให้รัฐบาลทำหนังสือถึงสถานทูตจีน เพื่อแสดงความกังวลและไม่สบายใจถึงการซ้อมรบของทหารเรือจีนกับกัมพูชาในวันที่ 11 - 13 มิถุนายน ก่อนจะเจรจา JBC ระหว่างไทยกับกัมพูชาในวันที่ 14 มิถุนายน เพื่อให้จีนทราบและวางตัวเป็นกลางในสถานการณ์ที่เปราะบางระหว่างไทยกับกัมพูชาขณะนี้ ตนเชื่อว่าจีนเข้าใจและระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นได้
“ขอสนับสนุนให้รัฐบาลประสานเสียงกับกองทัพไปในทิศทางเดียวกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างความฮึกเหิม และความมั่นใจให้คนไทย และควรปรับยุทธศาสตร์การเมืองการทหารระหว่างประเทศใหม่ เพราะกัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลง MOU 2543 ซึ่งไทยประกาศชัดไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลโลกอยู่แล้ว ผมขอใช้โอกาสนี้ เชิญชวนคนไทย ให้รักสามัคคีกัน ไม่ให้ประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกของคนในชาติได้ และขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาล ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพและทหารทุกนายในการปฎิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเข้มแข็ง” นายธนกร ระบุ