"สุชาติ" รับคุยทิศทางการเมืองอนาคตกลุ่ม ส.ส.จริง ขอโทษผู้ใหญ่ รทสช.ทำไม่สบายใจ ลั่นภารกิจสิ้นสุดแล้ว ตั้งแต่ผู้มีพระคุณไม่อยู่ อุบตอบ มีกี่คนย้ายตาม
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพรับประทานอาหาร กับกลุ่ม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้พูดคุยกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ ว่า บางสิ่งบางอย่างเราต้องให้เกียรติ เราอาศัยบ้านเขาอยู่ เราต้องให้ความเคารพ ส่วนระเบียบและข้อบังคับพรรคก็ว่าไปตามนั้น ตนไม่ได้ซีเรียส
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สื่อมวลชนถามว่าเจอกันกินข้าวกัน คุยอะไรกัน ตนก็ต้องพูดตรงๆ จะโกหกยังไง ต้องพูดความจริง หากตนบอกว่าไม่ได้คุยอะไร จะเชื่อหรือไม่ นี่คือความเป็นจริงที่ต้องพูด แค่ไปนั่งหารือกันเฉยๆ ยังไม่ถึงเวลา ไม่มีใครรู้ว่าเรากินข้าวกันมา 5-6 เดือนแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เราคุยกันมานาน
เมื่อถามว่า นายเอกนัฏ ระบุว่าพร้อมรับฟังปัญหาภายในพรรค นายสุชาติ กล่าวว่า ตนอาศัยบ้านเขาอยู่ ต้องยอมรับว่าพรรคก็ดีสำหรับคนบางกลุ่ม แต่สำหรับตนบริบทอาจไม่เหมาะสม แต่อาจจะเป็นเฉพาะตน คนอื่นเราไม่ได้ไปยุ่ง ต้องขอโทษด้วยหากทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่เราก็ต้องมองทิศทางตัวเราว่าจะทำอย่างไร
ส่วนปิดดีลกับพรรคโอกาสใหม่แล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้มีดีลอะไร การเมืองก็ต้องคิดของเรา จะไปดีลอะไร จะไปคุยอะไรกับใครเราต้องมีมารยาทพอ ตนไม่เคยไปคุยกับพรรคอื่น เรามีสิทธิ์คุยและคิดกับเพื่อนเรา สื่อมวลชนก็ถามถึงภาพที่หลุดออกไป ตนไม่ได้เป็นคนทำให้ภาพหลุดออกไป ยืนยันว่าผู้แทนทุกคนมีเอกสิทธิ์
นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องข้อบังคับพรรคที่มีการแก้ไข ตนน้อมรับทุกอย่าง ตนทำอะไรต้องยอมรับความเป็นจริง ขอถามว่า เมื่อมีการพูดถึงข้อบังคับแล้ว จะทำอะไรกับตนก็ทําเลย ตนไม่ได้ซีเรียส แต่ถ้าตนลาออก ประชาชนจะมองอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีนายสุชาติมีชื่ออยู่ในโผปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่มี เป็นอำนาจของนายกฯ ตนไม่สามารถก้าวล่วง เราพูดคุยกันทีละสเตป
นายสุชาติ กล่าวว่า การเมืองต้องมองทิศทางประเทศชาติและบ้านเมือง เราจะอยู่พรรคไหนในอนาคต ต้องทำงานเพื่อประชาชน เราก็ต้องไปอยู่ตรงนั้น นโยบายพรรคนี้ก็ดี แต่อาจไม่ตรงกับเรา
เมื่อถามว่า แบบนี้ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าใจไม่อยู่กับพรรคเดิมแล้ว นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ผมมาอาศัยเขาอยู่ 2 ปีกว่า แต่ต้องยอมรับว่าเราต้องมองไปข้างหน้า
“ไม่ได้จากกันด้วยการทะเลาะกัน แต่จากกันด้วยดี ไม่มีใครว่าอะไรกัน แต่อะไรที่ผมทำให้ผู้ใหญ่ในพรรค ไม่สบายใจ หรือผิดข้อบังคับ ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง เราเป็นลูกผู้ชาย แต่เราไม่ได้คิดว่าจะทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ ผมไม่ได้มีเจตนา” นายสุชาติ กล่าว
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีกี่คนที่มีแนวคิดการเมืองคล้ายกับนายสุชาติ นายสุชาติ กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเพื่อนคนอื่น เป็นแค่เรื่องตนคนเดียว ตนบอกให้ทุกคนสบายใจ มีอะไรตนรับผิดชอบคนเดียว
เมื่อถูกถามถึงคำพูดของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ระบุว่า หากไม่มีใจก็ควรลาออกจากพรรค นายสุชาติโต้กลับว่า ควรย้อนดูว่า ส.ส. ที่มาจากเลือกตั้งปี 66 นั้นมาจากใคร “พรรคเดิมไม่มี ส.ส. สักคน แล้วปี 66 ส.ส. มาจากพรรคไหน สื่อก็รู้อยู่” นายสุชาติ กล่าว พร้อมเปรียบพรรคว่าเป็นแม่น้ำหลายสายรวมกัน และการแยกสายเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง
“ภารกิจของผมจบลงตั้งแต่ผู้มีพระคุณไม่อยู่ ผมเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองตั้งแต่ปี 62 วันนี้ไม่สามารถอยู่กับท่านได้แล้ว ท่านเคยฝากอะไรไว้หลายอย่าง ผมต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง”
นายสุชาติยังกล่าวด้วยว่า ตนพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ไม่โยนความผิดให้ใคร และยังคงยึดมั่นว่า “อยู่ที่ไหนก็ทำงานเพื่อประชาชนได้” แม้จะต้องแยกทาง ก็จะจากกันด้วยดี ไม่ใช่ด้วยความขัดแย้ง