“กฤษฎิ์” ใช้โควต้าพรรคกล้าธรรม ลุกอภิปรายหนุนงบปี 69

“กฤษฎิ์” ใช้โควต้าพรรคกล้าธรรม ลุกอภิปรายหนุนงบปี 69
“กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์” ใช้สิทธิพรรคกล้าธรรม ลุกอภิปรายหนุนงบปี 69 เพื่อให้รัฐสามารถเดินหน้าลงทุนเพื่ออนาคต พร้อมเสนอ“โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ”เสริมอาชีพประมงให้ชาวบ้าน

น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล โควต้าพรรคกล้าธรรม ต่อที่ประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท 

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ขอสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายของปีนี้ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และการยกระดับภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงการเสนอแนวทางการพัฒนาท้องถิ่นในเขตแหลมฉบังและอ่าวอุดม

โดยในปีงบประมาณ 2569 กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 261,292.54 ล้านบาท ซึ่งงบส่วนใหญ่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การขยายทางหลวงและการบำรุงรักษาทางสายหลัก, โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง, การยกระดับความปลอดภัยบนถนน จุดพักรถ และจุดตรวจน้ำหนัก, งบบูรณาการคมนาคมในเขต EEC ซึ่งเกี่ยวข้องกับเขตพื้นที่ของตนโดยตรง 

นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนงบกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเชื่อมถนนสายรองเข้าสู่ชุมชน แหล่งท่องเที่ยว และเขตชายแดน ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการเดินทางเท่านั้น แต่เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นอย่างแท้จริง

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวต่อถึงงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้รับงบประมาณจำนวน 131,111 ล้านบาท โดยจัดทำแผนภายใต้ 3 กลุ่มนโยบายหลัก ได้แก่ นโยบายเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริ,นโยบายเร่งด่วน ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกร และการยกระดับเกษตรสมัยใหม่ และนโยบายระยะกลาง-ยาว ได้แก่ การจัดการที่ดิน การบริหารทรัพยากรน้ำ การขับเคลื่อนคาร์บอนนิวทรัล และการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

นอกจากนี้ ยังมีการบริหารจัดการสินค้าเกษตร 14 รายการหลักให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Thailand Hub ได้แก่ ข้าว ทุเรียน กุ้ง โคเนื้อ ยางพารา ปาล์ม ถั่วเหลือง โกโก้ และหม่อนไหม โดยเน้น การพัฒนาศักยภาพของเกษตรกร ให้แข่งขันได้ในระดับสากล

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนจากพื้นที่แหลมฉบังและอ่าวอุดม ขอเสนอ โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่ง ซึ่งกำลังเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของ การพัฒนาเมือง มลพิษ และอุตสาหกรรมชายฝั่ง ทำให้ปริมาณสัตว์น้ำชายฝั่งลดลง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านขาดรายได้ และสูญเสียอาชีพดั้งเดิม จึงขอให้มีการจัดสรรงบประมาณผ่านกรมประมง เพื่อผลิตพันธุ์สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปู ปลา และหอยทะเล เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยมีการจัดกิจกรรมร่วมกับ ชุมชนและท้องถิ่น เพื่อฟื้นฟูประชากรสัตว์น้ำในอ่าวมะขามและแหลมฉบัง รวมถึงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรทะเล และ ส่งเสริมอาชีพประมงยั่งยืนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โครงการนี้ไม่เพียงสร้างรายได้และความมั่นคงทางอาหาร แต่ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศทางทะเล และ เศรษฐกิจฐานราก อย่างยั่งยืนด้วย

น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า งบประมาณปี 2569 นี้ไม่ใช่เพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่คือโอกาสที่จะเชื่อมประเทศเข้ากับอนาคต และเชื่อมประชาชนเข้ากับความหวังไม่ว่าจะเป็นถนนที่เชื่อมเมืองงบเกษตรที่เชื่อมชาวนาเข้ากับตลาด หรือโครงการประมงที่เชื่อมชาวบ้านเข้ากับท้องทะเล ตนขอยืนยันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 เพื่อให้รัฐสามารถเดินหน้าลงทุนเพื่ออนาคตอย่างมั่นคง

ทั้งนี้มีรายงานว่า การอภิปรายครั้งนี้ น.ส.กฤษฎิ์ ได้นั่งอยู่ในโซนของพรรคกล้าธรรม และได้ใช้เวลาในการอภิปรายในสัดส่วนของฝ่ายรัฐบาลด้วย

TAGS: #พรรคประชาชน #พรรคกล้าธรรม #งบปี69 #งบ69 #งบประมาณ #กฤษฎิ์ชีวะธรรมานนท์