"ยิ่งลักษณ์" เคลื่อนไหวหลังศาลฯ สั่งชดใช้หมื่นล้าน คดีจำนำข้าว

อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย โพสต์ข้อความแสดงจุดยืนหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยให้ชดใช้กว่า 10,000 ล้านบาทในคดีโครงการจำนำข้าว เผยเจ็บปวดต้องรับผิดชอบทั้งที่ไม่ได้ก่อ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ในทันที หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเงิน 10,028 ล้านบาท (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประมาทเลินเล่อร้ายแรง! เปิดเหตุผลศาลปค.สูงสุดสั่ง'ยิ่งลักษณ์'ชดใช้หมื่นล้านเซ่นจีทูจีข้าว) ระบุว่า...

เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ

วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว

จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น

นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก ผ่านการจับจ่ายใช้สอยของครอบครัวชาวนา กว่า 20 ล้านคน มีเจตนาช่วยเหลือให้พี่น้องชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก สามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

รัฐบาลของดิฉันมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือชาวนาที่อยู่อย่างยากจนแร้นแค้น ให้ขายผลผลิตได้ในราคาสูง มีกิน มีใช้ มีเงินเหลือส่งลูกหลานเรียนหนังสือจนจบ ซึ่งที่ผ่านมามีครอบครัวชาวนาได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่หากการดำเนินนโยบายแบบนี้ กลับถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดความเสียหาย ต่อไปใครจะกล้าคิดนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เข้าไม่ถึงโอกาสทางเศรษฐกิจได้อีก

ดิฉันไม่มีเจตนาจะทำให้โครงการเสียหาย การดำเนินโครงการแต่ละขั้นตอน เกี่ยวข้องกับหน่วยงานและบุคลากรหลายฝ่าย มีลำดับขั้นการบังคับบัญชาตามระบบราชการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่หัวหน้าฝ่ายบริหารจะไปก้าวก่ายแทรกแซงในรายละเอียดได้ แต่ดิฉันกลับต้องรับผิดชอบกับความเสียหายเพียงลำพัง หากจะบอกว่าสิ่งนี้คือความเป็นธรรม ก็เป็นเรื่องยากเย็นอย่างยิ่งที่ดิฉันจะเข้าใจและยอมรับได้

หนี้ 10,000 ล้านบาท ชดใช้ทั้งชีวิต ยังไงก็ไม่มีวันหมดค่ะ การทุ่มเททำงาน แบกรับแรงเสียดทานทั้งทางการเมืองและอีกหลายรูปแบบ เพื่อค้ำยันราคาข้าวให้สูงและมีเสถียรภาพ เพื่อพี่น้องชาวนาได้มีชีวิตที่ดีกว่า พลิกผืนนาเป็นพื้นที่แห่งโอกาสของครอบครัว กลับมีบทสรุปที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับดิฉัน

โครงการรับจำนำข้าวเป็นการกระทำทางการบริหารร่วมกันเป็นคณะกรรมการ การตัดสินให้ดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ยังมีคำถามว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เพราะหลังรัฐประหารก็มีข่าวว่ารัฐบาลเวลานั้นเอาข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่า

ข้าวที่เหลือในโกดัง 18.9 ล้านตัน ถูกขายในราคาต่ำกว่าที่ควรจะได้รับ คิดเป็นมูลค่าส่วนต่างนับ 100,000 ล้านบาท แต่ไม่ปรากฏความคืบหน้าของการตรวจสอบ และหาคนรับผิดชอบไม่ได้จนปัจจุบัน

ตลอดเวลา 11 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สิ่งที่ดิฉันจำต้องพบเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ ยึดอำนาจ ยัดคดี อายัดทรัพย์ และเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาบังคับให้ใช้หนี้

ความรู้สึกแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่มีใครรู้ แต่ถึงกระนั้นดิฉันก็จะเรียกร้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในชีวิต จนถึงที่สุดตามกฎหมายที่พึงกระทำได้

ถ้านายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ยังไม่อาจเข้าถึงความยุติธรรมที่แท้จริง ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ สำหรับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเช่นกันค่ะ

TAGS: #ยิ่งลักษณ์ #ชดใช้หมื่นล้าน #คดีจำนำข้าว #ศาลปกครองสูงสุด