"กมธ.ไอซีที วุฒิสภา" กังขาตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาตรการส่งเสริมโรบอทเทรดและการขายชอร์ตเซลจวกยับไม่ยอมฟังเสียงค้าน ซ้ำเติมเศรษฐกิจให้ดิ่งเหวลงไปอีก ซัดเปิดช่องให้ต่างชาติ
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร และโทรคมนาคม วุฒิสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมกมธ. ซึ่งมี นายนิเวศ พันธุ์เจริญวรกุล ประธานกมธ.เป็นประธานได้พิจารณาเรื่องตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งความคืบหน้าเรื่องที่กมธ.ได้เคยเรียกตลาดหลักทรัพย์ฯ มาให้ข้อมูลเรื่องการใช้โปรแกรมซื้อขายหุ้นความถี่สูง (High Freequency TRrading-HFT)เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งกมธ.แสดงความกังวลว่าจะเปิดช่องให้นักลงทุนต่างชาติที่มีอำนาจเงิน และเข้าถึงโปรแกรมการซื้อขายดังกล่าว สร้างความได้เปรียบต่อนักลงทุนคนไทย และการซื้อขายถี่เกินไปที่เน้นหากำไรในเสี้ยววินาที ประกอบกับจะเปิดให้มีการยืมหุ้นมาขายในตลาด (ชอร์ตเซล) ก็เท่ากับเป็นการเปลี่ยนตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นแหล่งออมและแหล่งลงทุนระยะยาว ให้กลายเป็นบ่อนพนันถูกกฏหมาย กมธ.จึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯปรับปรุงแก้ไขด้วย กมธ.ได้รับแจ้งว่า ที่ผ่านมามีการเปิดรับฟังความคิดเห็น (Public heraing) ประกอบเสร็จแล้ว จึงส่งเรื่องให้กมธ.ทราบ
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำเรื่องแปลกประหลาดอย่างมาก คือนอกจากจะไม่รับฟังข้อกังวลข้อท้วงติงและข้อเสนอแนะของกมธ.แล้ว ยังเหมือนจะไม่รับฟังข้อกังวลข้อเสนอแนะในการจัดทำ Public Hearing ในครั้งนี้ด้วย ทำเหมือนว่ามีธงอยู่แล้วที่จะสนับสนุนให้ใช้โปรแกรมโรบอทเทรด HFT ควบคู่การขายชอร์ตเซล ถึงใครจะทักท้วงก็ไม่สนใจฝืนกระแสแบบจงใจ โดยพิจารณาได้จาก 1.ตลาดหลักทรัพย์ฯได้จัดรับฟังความคิดเห็นทั้งทางออนไลน์ ที่มีนักลงทุนทั่วไปร่วมเสนอความคิดเห็นคัดค้านจำนวนมาก และได้จัดรับฟังความคิดเห็นแบบกลุ่ม (Focus Group) ที่ประกอบไปด้วยตัวแทนผู้ได้เสีย ทั้งบริษัทหลักทรัพย์โบรกเกอร์ และบริษัทกองทุน ซึ่งสรุปว่า ควรจะห้ามขายชอร์ต หรือจำกัดจำนวนการขายชอร์ตให้น้อยกว่าใน SET100 เช่น ให้ขายชอร์ตได้เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ใน SET 25 หรือ SET 50 ก็พอแล้ว ส่วนการใช้โรบอทเทรด โปรแกรมเทรดดิ้ง HFT ก็ควรจำกัดเฉพาะหุ้นใหญ่ใน SET 25 หรือ SET 50 ไม่ควรขยายไปถึง SET 100 เพราะกลุ่มที่ใช้โปรแกรมนี้ก็ทำอยู่แล้ว (ดู https://media.set.or.th/set/Documents/2025/Apr/No76_HearingResult_Regulatory_Review_of_Short_Selling_and_HFT.pdf )
2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศให้มีการขายชอร์ตเซลหุ้นใน SET 100 ได้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนเป็นต้นไป และจะให้ใช้โปรแกรมโรบอทเทรด HFT ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยแจ้งว่า ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง แล้ว (ดูประกาศ https://www.set.or.th/th/about/mediacenter/news-release/article/709-set-launches-new-additional-trading-supervisory-measures-after-the-end-of-temporary-measures-to-maintain-stability-in-thai-stock-market)
รองประธานกมธ.กล่าวว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดื้อรั้นฝืนกระแสของวงการลงทุนที่คัดค้านอย่างหนัก มีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ โดยไม่แคร์เสียงทักท้วงและข้อเสนอแนะจากกมธ.เลย เดินหน้าให้ช็อตเซลไปตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน และกำลังจะใช้โปรแกรมโรบอทเทรดในเดือนพฤษภาคม ทำให้คนในแวดวงตลาดหุ้นเขาสงสัยกังขากันมากว่า เพราะมีการผลักดันจากบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ที่ทรงอิทธิพลรายหนึ่ง ซึ่งได้ผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ถ้าทำตามข้อเสนอของนักลงทุนส่วนใหญ่ หรือกมธ. จะไปขัดกันทางผลประโยนชน์ (Confict of interest) ซึ่งบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่นี้ก็มีอิทธิพลกับนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านที่ใช้บริการซุกหุ้นนักการเมือง (Blind trust) อยู่ ถือเป็นการซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจ การออม การลงทุนของประเทศให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล จากวิกฤตสงครามการค้าเข้าไปอีก
"แม้เป็นเพียงเสียงครหา และไม่น่าจะเป็นความจริง แต่ก็ขอเรียกร้องไปยังน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง ไม่ควรปล่อยให้ตลาดหลักทรัพย์ฯบริหารงานให้เกิดความเสียหายซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ ทำร้ายการออม ทำลายการลงทุนในประเทศ ทั้งที่ควรหันมารับฟังข้อท้วงติงและข้อเสนอแนะที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติ ไม่ควรปล่อยผีเรื่องชอร์ตเซล แต่ควรต้องทบทวนมาตรการชอร์ตเชซกันใหม่ ที่สำคัญเดือนหน้าจะมีการปล่อยผีเรื่องโรบอทเทรดโปรแกรมบ่อนพนันถูกกฎหมายกันอีก จึงต้องระงับยับยั้งและแก้ไขให้ทันการณ์ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อตลาดหุ้นไทย"รองปรธานกมธ.ไอซีทีกล่าว