"พิธา"ชี้ ยื้อแก้ รธน.-นิรโทษกรรม กระทบปชช.โดนลิดรอนสิทธิ มอง พท.ควรได้แจง ปม"ทักษิณครอบงำ"

"พิธา" ชี้ ยื้อแก้ รธน.-นิรโทษกรรม กระทบประชาชน โดนลิดรอนสิทธิ ชี้ เพื่อไทยควรได้สิทธิชี้แจง คำร้อง"ทักษิณครอบงำ" ยัน บทลงโทษยุบพรรคไม่ควรมี 2 มาตรฐาน คนรัฐประหารโทษหนักกว่าครอบงำพรรค

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้า เผย กรณีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ไม่ทันในสมัยนี้ แต่ไปในสมัยหน้า มีข้อกังวลอะไรหรือไม่เพราะเงื่อนไขทุกพรรคการเมืองไม่เอามาตรา 112 ว่า กังวลถึงสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน กังวลถึงสัญญาที่เคยพูดต่อหน้าสื่อมวลชนว่าสิ่งแรกๆที่ควรจะทำคือการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องมีการทำประชามติ แล้วก็การนิรโทษกรรมทางการเมือง ถึงแม้จะเห็นต่างและไม่เห็นต่าง ดูเหมือนว่าจะมีการประวิงเวลา มีการศึกษาแล้วศึกษาอีกโดยที่ไม่มีความจำเป็นอะไร และสว.ก็เปลี่ยนชุดใหม่มีประธาน ยังเห็นไม่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังเป็นความไม่แน่นอนในการเมืองไทยต่อไป ต้องคำนึงถึงประชาชนที่โดนลิดรอนสิทธิเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง

เมื่อถามว่ามองทางออกนี้อย่างไรแค่ร่างรายงานนิรโทษกรรมยังถูกตีตก นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่า เจตจำนงของประชาชนมากพอก็มีทางออกทั้งนั้น แน่นอนว่านักการเมืองก็ดี ไม่ว่าจะเป็นสภาสูงสภาล่างไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน พูดไว้อย่างทำอีกอย่าง คนที่เป็นประธานก็อยู่พรรคเดียวกัน ปรากฏว่าโหวตออกมาก็ไม่ตรงกับที่ญัตติตัวเองเสนอ ตนกังวลว่าคนจะรู้สึกได้ว่ามันวนไปวนมาไม่มีความชัดเจน

ส่วนกรณีคำร้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย จากเหตุนายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำพรรค ซึ่งล่าสุด ประธานคณะกรรมการารเลือกตั้ง ได้เตรียมพิจารณานำ 4 คำร้อง มารวมกันนั้น นายพิธา กล่าวว่า ต้องดูกระบวนการร้องนั้น ต้องได้สัดส่วน ซึ่งไม่ควรนำมาใช้ในคำร้องการยื่นยุบพรรคการเมือง ส่วนที่ว่านายทักษิณ  เรื่องครอบงำพรรคหรือไม่ ตนไม่เกี่ยว แต่ในภาพใหญ่ไม่ควรให้พรรคการเมืองที่มาจากประชาชนต้องตายโดยองค์กรอิสระได้ เพราะมันจะเกิดคำถามว่า องค์กรอิสระมีที่มาจากไหน ความโปร่งใสและความรับผิดชอบเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องพิจารณาความเหมาะสมของสัดส่วนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบทลงโทษ ถ้าถูกครอบงำจริง บทลงโทษก็ควรได้สัดส่วนตามระดับของความผิด ไม่ใช่ทุกเรื่องจะต้องถูกยุบพรรคหมด ตนคิดว่าไม่เป็นไปตามหลักการและสามัญสำนึก 
ส่วนรายละเอียด ตนไม่สามารถตอบได้ทั้งหมดเพราะยังไม่ได้อ่านคำร้อง แต่บทลงโทษต้องเป็นไปตามสัดส่วนความผิด ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ปกปักษ์รัฐธรรมนูญ การเกิดรัฐประหาร โทษควรจะหนักกว่าการครอบงำพรรค ทำไมคนทำรัฐประหารไม่เห็นได้รับโทษเลย 

ส่วนกรณีที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า กกต.มีระเบียบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานข้อ 7 วรรค 2 ระบุว่าจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมารับทราบข้อเท็จจริง และมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเสนอเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณานั้น เมื่อย้อนไปเทียบเคียงการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล มีความเหมือนหรือแตกต่างอย่างไร  นายพิธา แสดงความเห็นว่า 
 
“ในส่วนของพรรคก้าวไกลตอนนั้นมีข้อต่อสู้ ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงตามระเบียบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังยุบพรรคอนาคตใหม่ ตอนนี้ระเบียบดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้ว พรรคเพื่อไทยควรได้มีโอกาสชี้แจง เพราะถ้าได้ชี้แจง เรื่องจะจบที่ก.ก.ต. ไม่ถึงศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ได้รับสิทธิ์ เพราะเป็นระเบียบที่ทุกพรรคการเมืองควรจะได้รับระเบียบนั้น อย่างที่ตนเคยอ่านถ้อยแถลงพรรคก้าวไกลว่า การพิจารณายุบพรรค ไม่ควรมี 2มาตรฐาน ไม่ควรมีการยุบพรรคแบบทางด่วน และไม่ควรมีการยุบพรรคแบบทางธรรมดา และการให้พรรคชี้แจงเป็นสิทธิ ไม่ไปผูกขาดอำนาจของ กกต.”

ส่วนสถานการณ์พรรคเพื่อไทยที่ถูกรุมเร้าด้วยปัญหา ทำให้มีวิเคราะห์ว่าพรรคเพื่อไทยอาจชิงยุบสภาก่อน นายพิธา กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีด้วย การเมืองย่อมเกิดขึ้นได้หมด ผมเคยคุยกับนักวิชาการต่างชาติว่าอายุรัฐบาลอยู่ได้ประมาณ 1ปีครึ่ง ถ้าไม่ใช่รัฐบาลเกิดจากการเผด็จการ และตอนนี้อยู่ในห้วงเวลาที่เกิดขึ้นได้ และคิดว่า ทุกพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับประชาชนก็พร้อมที่จะเลือกตั้ง เพราะอุบัติเหตุทางการเมืองย่อมเกิดขึ้นได้

TAGS: #พิธา #แก้รัฐธรรมนูญ #นิรโทษกรรม #เพื่อไทย #ทักษิณ