"พล.อ.ประยุทธ์" ยกเพลง พระราชนิพนธ์ ร.6 "ไร้รักไร้ผล" ปลุกใจคนไทยอย่าลืม "ชาติ ศาสน์ กษัตริย์" ก่อนแจง ไร้นัยยะ เผย ต้องระวัง ทำมือสัญลักษณ์ เลข 22 เลข พรรครทสช. ไม่อยากให้มีปัญหา
ที่ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันครอบครัว และพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ประจำปี 2566
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีอีกครั้งขอแสดงยินดีกับผู้ได้รับรางวัล ทั้งหน่วยงานและองค์กรที่สนับสนุนงานด้านการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้สูงอายุและครอบครัว รวมถึงผู้รับรางวัลสาขาต่างๆ แสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุยังเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในการสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคมเป็นแบบอย่างที่ทรงคุณค่า รวมถึงครอบครัวและรางวัลครอบครัวร่มเย็น ขอให้ทุกท่านเก็บรักษาความภาคภูมิใจนี้ไว้และส่งผ่านสิ่งดีๆเหล่านี้ไปยังคนรอบข้างและชุมชนสังคมต่อไป ตนเคยกล่าวมาหลายครั้งวันนี้สถานการณ์โลกและสถานการณ์เรา กำลังมีปัญหาในเรื่องการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบสมบูรณ์ อีกประการผู้สูงอายุเรามากขึ้น แต่คนเกิดใหม่น้อยลง ดูสถิติการเข้าศึกษาที่ลดลงทุกปีตรงนี้ต้องพิจารณาร่วมกันจะทำอย่างไรบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และครอบครัวเตรียมความพร้อมกันอย่างไร ซึ่งตนในนามรัฐบาลได้มีการปรึกษาหารือในคณะรัฐมนตรีและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอีกหลายๆกระทรวงว่าเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลความเป็นอยู่ ความเดือดร้อน ความไม่พอเพียงต่างๆเหล่านี้ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามศักยภาพของประเทศของเราที่มีอยู่ด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ด้านเทคโนโลยีโซเชียล วันนี้ทุกคนใช้บริการทางโทรศัพท์ได้ทุกอย่าง อยากให้ทุกคนทุกช่วงวัยเข้าถึงการบริการเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเราทำมามากพอสมควร แต่ก็ต้องระมัดระวังตระหนักรู้เท่าทันภัยเทคโนโลยีด้วย ทุกอย่างมีทั้งผลดีและผลเสีย มีทั้งวิกฤตและโอกาส อย่าทำให้โอกาสกลายเป็นวิกฤตเท่านั้นเองต้องช่วยกันพัฒนาต่อไป และหวังอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วน ภาครัฐ และเอกชน โดยเฉพาะทุกครอบครัวจะช่วยกันแบ่งปันความรักความเผื่อแผ่เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และสร้างพื้นที่ที่อบอุ่นร่วมกันเพื่อให้ทุกบ้านได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ได้ไปงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 136 ปี กระทรวงกลาโหม ทุกรัฐบาลมีการพัฒนา ในที่สุดคือความเข้าใจ ว่าเราจะนำพาประเทศไปในทิศทางใด ให้มีรายได้มากขึ้นเพื่อดูแลประชาชนที่มีความยากลำบาก ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรักความสมัครสมานสามัคคีที่เราจะต้องเดินหน้าไปด้วยกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง วันนี้ต้องขอบคุณภาคเอกชนองค์กรต่างๆที่ออกมาช่วยกัน หลายปีที่อยู่ร่วมกันมาต้องขอบคุณทุกท่านที่มาวันนี้และประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าก็ด้วยคนไทยทุกคนร่วมกันช่วยกัน ฉะนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมของเรารองรับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด โดยการติดตามข่าวสารรับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์
“ผมอยากจะกล่าวถึงถ้าทุกคนจำได้ มีบทพระราชนิพนธ์บทหนึ่งรู้สึกจะเป็นเพลงด้วย พึ่งนึกออกเมื่อตอนเช้า รัชกาลที่ 6 ชื่อเพลง ไร้รักไร้ผล อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน ประชาชนจะสุขอยู่ได้อย่างไร ทุกอย่างถ้าเราไม่รักกัน ไม่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยบ้านเมืองเราเดินหน้าไปไม่ได้แน่นอน ถ้าเรายังมีปัญหาอยู่ ผมคิดว่าก็ยังมีอยู่บ้าง แต่วันนี้ทุกอย่างเป็นธรรมดาโลกเจริญแล้ว หลายอย่างเปิดกว้างมากขึ้น หลายคนมีความคิดที่แตกต่าง ผมไม่ว่าอะไรตรงนี้ แต่ทำอย่างไรจะกลับมาร่วมกันทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้นี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ ขอพรขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ เพราะเป็นปีใหม่ของไทย อีกประการหนึ่งทำบุญแล้วก็ต้องทำกุศล การทำกุศลทำอะไรก็ได้ให้บ้านเมืองให้ประชาชน ให้คนได้กุศล ทำบุญให้พระ ให้วัด สิ่งต่างๆจะตอบสนองให้ทุกคนมีความสุข สิ่งสำคัญวันนี้เราต้องให้ความสำคัญกับสังคมครอบครัวให้มากที่สุด อย่าลืมว่าบ้านเมืองเราไม่อยู่ได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง เราอยู่ได้ด้วยพวกเราทุกคน 70 ล้านคนจะต้องช่วยกันดูแลสังคม ภาคเอกชนที่มีกำไรก็ต้องช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ทำให้บ้านเมืองสมัครสมานสามัคคีกันให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมของเราอย่าให้เป็นสังคมที่มีความแตกแยก สังคมที่สำคัญคือสังคมครอบครัวจะต้องเป็นครอบครัวที่มีคุณภาพยากดีมีจนอย่างไรก็เป็นครอบครัวที่มีคุณภาพ ขอฝาก รมว.การพัฒนาสังคมฯด้วย รัฐบาลก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
นายกฯกล่าวอีกว่า วันนี้พูดมาตั้งแต่เช้า ก็พยายามจะพูดทุกวันในฐานะเป็นนายกฯ จะไม่พูดได้อย่างไร ก็ต้องพูดให้เข้าใจว่านายกฯ คิดอย่างไรรัฐบาลจะเดินหน้าอย่างไร ถ้าไม่พูดก็ไม่รู้จะร่วมมือกันได้อย่างไร วันนี้ดีใจได้เจอผู้สูงอายุ และขอชื่นชมปราชญ์ชาวบ้าน ศิลปินแห่งชาติ โนรา ทุกคนมีความหมาย ทุกคนเป็นคนไทย แล้วอย่าลืมชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 3 สถาบันหลักของเรา เราทิ้งไม่ได้ นี่คือพื้นฐานของประเทศไทย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทักทายผู้สูงอายุ พร้อมกล่าวย้ำว่า “วันนี้ประเทศไทยของเราต้องช่วยกัน ถ้าไม่ช่วยกันจะเดินไปได้อย่างไร” พร้อม เดินชมนิทรรศการ ได้ถ่ายภาพ และเซลฟี่กับผู้สูงอายุที่มาร่วมงาน พร้อมพูดคุยใช้กำปั้นทุบไปที่อกส่งสัญลักษณ์ มินิฮาร์ท พร้อมทำท่าดอกลำดวน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุ อย่างอารมณ์ดี
อย่างไรก็ตามระหว่างเยี่ยมชมนิทรรศการ ซึ่งมีผู้ร่วมงาน ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยบางคนได้ส่งนิ้วสัญลักษณ์ เบอร์ 22 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จับสลากได้ในระบบบัญชีรายชื่อ ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่กองพิธีการ ทำเนียบรัฐบาลได้ขอความร่วมมือห้ามทำสัญลักษณ์เลข 22 เนื่องจากเกรงข้อกฎหมายเลือกตั้ง ขณะที่นายกฯ เองได้ระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงชมบูธที่มีการร้องเพลง และเล่นดนตรี นายกฯ ปฏิเสธที่จะร่วมร้องเพลง โดยกล่าวว่า ช่วงนี้ห้าม เพราะอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ โดยนักข่าวถามว่าวันนี้เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำเพื่อประเทศชาติ นายกฯ ต้องคิดแบบนี้ ทำสิ่งดีๆ มันก็ต้องอดทน เหนื่อยก็ต้องยอม
เมื่อถามว่า วันนี้ดูนายกฯระวังเรื่องการแสดงสัญลักษณ์หมายเลข 22 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องระวังเขาไม่อยากให้มีปัญหา บางคนหวังดีก็ดี บางคนหวังไม่ดี มันก็ไม่ดี เราก็ไม่อยากทำให้วุ่นวาย
จากนั้นเวลา 11.50 น.พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีการหยิบยกบทเพลงพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 ชื่อเพลง ไร้รัก ไร้ผล มาพูดในวันเดียวกันนี้ถึง 2 ครั้งมีนัยอะไรหรือไม่ ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไปที่ศาลากระทรวงกลาโหมมา ก็ได้พูดกับข้าราชการของกระทรวงกลาโหมว่าพวกเราต้องช่วยกันรักษาและสานต่อสิ่งที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ซึ่งเพลงๆนี้ก็มีความหมายว่าคนในชาติจะต้องร่วมมือกัน ไม่ได้ปะปนอย่างอื่น
จากนั้นนายกฯ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า แล้วมันเสียหายอะไรมากล่ะเพลงนี้ โดยผู้สื่อข่าวตอบว่าเป็นเพลงปลุกใจให้คนรักชาติ พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบกลับว่า “ก็ให้ไปคิดกันเอาเอง ว่าประเทศชาติจะอยู่กันอย่างไร ก็เป็นเรื่องของพวกเรา และเป็นเรื่องกระบวนการประชาธิปไตยของพวกเธอ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันให้กองทัพไปคิดแบบนี้”
เมื่อถามต่อว่าในทางการข่าวในเรื่องของความสงบเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไรในช่วงนี้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ก็ไม่มีอะไร ยังไม่เห็นมีอะไรเลย มีแต่ใช้ปากอะไรกันหน่อย เราก็ไม่ไปต่อสู้อะไรกับใครอยู่แล้ว เพียงแต่มันจะทำให้เหตุการณ์บานปลายอะไรหรือเปล่าเราไม่รู้ แล้วมันก็จะไปเดือดร้อนคนอื่นเจ้าหน้าที่ก็จะต้องทำงาน มันก็จะมีปัญหาต่อไปอีก ถ้ามันไม่มีคนที่จะคิดทำอะไรที่ไม่ดี มันก็เรียบร้อย แล้วเขาทำเพื่อมุ่งหวังอะไรกันล่ะ ก็ไม่รู้”
เมื่อถามว่าเหนื่อยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ถามว่าเหนื่อยไหม ก็มันมีกำลังใจที่จะทำเพื่อคนอื่นไง มันไม่เหนื่อยหรอก เหนื่อยเดี๋ยวมันก็ฟื้นเดี๋ยวมันก็หาย แต่ถ้าไม่ทำมันก็เหนื่อยพูด พูดอย่างเดียวไง”
เมื่อถามว่า กำหนดการลงพื้นที่ นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวก็มีแหละ เมื่อถามถึงการเตรียมตัวปราศรัยใหญ่ วันที่ 7 เม.ย.นี้ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ต้องเตรียมหรอก ถ้าฉันไปก็รู้เองแหละ”