"อภิสิทธิ์" ยันเสียงคนกรุุงตอบรับประชาธิปัตย์ เตือนให้หาเสียงแบบประชาธิปไตย เลี่ยงความขัดแย้งสู่การเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียง ช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตยานนาวา-บางคอแหลม  และ เขตสาทร-ปทุมวัน-ราชเทวี ถึงกระแสการตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพมหานคร ว่า เห็นได้ชัดว่าประชาชนคนกรุงเทพมหานครจำนวนมากที่มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะบุคลากรของพรรคหลายคนมีความมั่นคง แน่วแน่ในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ก็หวังว่าความสัมพันธ์นี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีในการสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้กลับไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร 

นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความเห็นกรณีที่มีเหตุการณ์ชุลมุนที่เวทีปราศรัยของพรรคการเมือง ว่า ทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออก แต่หากต้องการให้บรรยากาศของบ้านเมืองไปด้วยดี คิดว่าในระบอบประชาธิปไตยก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการที่จะไปสร้างความขัดแย้ง การไปแสดงออกก็ควรอยู่ในรูปแบบที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาจะดีที่สุด ก็เห็นใจ เพราะเมื่อมีการแข่งขันกันทุกคนก็จะมีความต้องการอยากจะแสดงออก แต่เราอยากให้กระบวนการประชาธิปไตย เป็นกระบวนการที่เราสามารถที่จะอยู่กับความแตกต่างและหาข้อยุติร่วมกันได้ จึงอยากจะขอประคับประคองให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี 

สำหรับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์จะมีเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยนั้น ส่วนตัวก็เจอมาเยอะแล้ว และได้มีการกำชับมาตลอดว่าให้ระมัดระวัง แต่ดีที่สุดคือการคำนึงถึงภาพรวมว่าเราอยากให้ประเทศเดินหน้าด้วยกระบวนการประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง

สำหรับกรณีที่มีเหตุการณ์ชุลมุนที่เวทีปราศรัย เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 ระหว่างที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยย่อยโซนธนบุรีเหนือ ในช่วงที่นายศันสนะ สุริยะโยธิน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตธนบุรี พรรคพปชร. กำลังปราศรัยอยู่นั้น ได้มีกลุ่มของน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และน.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ “แบม” นักเคลื่อนไหวอิสระ พากลุ่มทะลุวังพร้อมแผ่นป้ายไวนิลของหลายพรรคการเมือง พร้อมสะท้อนผลกระทบกับเยาวชนที่โดนคดีมาตรา 112

ทั้งนี้ ทางกลุ่มพยายามที่จะทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองในบริเวณพื้นที่เวทีปราศรัย ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้วางแผงเหล็กกั้นไว้ แต่ทางกลุ่มมวลชนก็พยายามที่จะดันเข้าไปให้ได้ จนกระทั่งเกิดความรุนแรงขึ้น โดยมีการชกต่อยกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับมวลชนจนเกิดความวุ่นวายและสร้างความตกใจให้กับประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย