ทนายออด "ตัวตึง"ไทยสร้างไทยลุยแก้ไขปัญหา "บางพลัด-บางกอกน้อย"

ทนายออด
 ผมเปลี่ยนการเดินหาเสียง ให้เป็นการเดินแก้ไขปัญหา เพราะแทบทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ปัญหาที่พ่อแม่พี่น้องต้องพบเจอหลักๆ ขยะในลำคลอง สายไฟหย่อน ทางชำรุด คุณภาพชีวิตของประชาชนแย่ลง แต่รัฐบาลไม่เคยมอง

โด่ดเด่นขึ้นมาทันที สำหรับ ทนายออด "ณัฐวัฒน์ พอใช้ได้" คนรุ่นใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย เขตบางพลัด บางกอกน้อย ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ด้วยไอเดีย แนวทางการหาเสียงที่ฮือฮา ด้วยการจัดทำป้ายหาเสียง "วาดสร้างไทย" เปิดโอกาสให้ประชาชน ขีดเขียนแสดงความเห็นบนป้ายหาเสียงของตัวเองได้อย่างเต็มที่  เพื่อรับฟังความเห็น ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่ง สำนักข่าว TheBetter ได้มีโอกาส สัมภาษณ์พูดคุยกับ "ทนายออด" ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการเข้าสู่การเมือง รวมถึงมุมมองในการแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม โดยมีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้

"ทนายออด" จบปริญญาตรี การศึกษาด้านกฎหมาย ม.อัสสัมชัญ  จบปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย และกำลังศึกษาปริญญาเอก การจัดการนวัตกรรมและอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  และได้ประกอบอาชีพทนายความ ซึ่งทำให้พบเจอผู้คนเป็นจำนวนมาก 

"ทนายออด"บอกว่า  หลายครั้งที่ได้ช่วยเหลือคนเดือดร้อนและแก้ปัญหาได้ แต่มันก็ไม่ได้ในทุกแง่มุม จุดเริ่มต้นของทนาย มันเริ่มด้วยตัวกฎหมาย การที่เราเข้าไปทำหน้าที่ขาหนึ่ง ของหลักนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการร่างกฎหมาย ทนายส่วนใหญ่ไม่มีโอกาส มีหน้าที่แค่แก้ต่างตามบทกฏหมายที่มี ถ้าวันหนึ่ง เรามีโอกาสที่จะไปร่างกฎหมายให้ประชาชนมีความยุติธรรม ให้กับคนไทย โดยที่ไม่ใช้กฎหมายมากลั่นแกล้งกันในทางการเมือง มันจะเป็นโอกาสที่ดี ทำให้ผมเองมีโอกาสจะเข้าไปพัฒนาทั้งด้านนิติบัญญัติและการดูแลประชาชนในพื้นที่

นอกเหนือจากงานกฎหมายช่วงโควิดระบาด ผมได้มีโอกาส ได้ทำฮอสพิเทล ช่วงที่โควิดหนักๆ โดยได้แนะนำติดต่อประสานงานหา รพ.ให้ผู้ป่วย จนผมรู้สึกว่าคนใกล้ตัวเราเป็นเยอะขนาดนี้ เพื่อนฝูงเราก็มีฐานะ ยังไม่มีที่รักษาเลย และคนที่ไม่มีเงินไปอยู่กันที่ไหน จะเห็นว่ามีโรงพยาบาลสนามมีไม่เพียงพอ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเช่าโรงแรมหลายแห่ง เพื่อเป็นที่กักตัวของผู้ป่วยโควิด รักษาคนป่วยโควิด โดยทีมหมอทีมพยาบาลมืออาชีพ รักษาไปหมื่นกว่าคน

"ผมก็เป็นส่วนเล็กๆทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น ส่วนประสบการณ์ทางด้านการเมือง ผมก็พอมี เป็นทั้งที่ปรึกษาเลขาคณะกรรมการต่างๆ เป็นทีมงานรัฐมนตรีหลายคน เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับนักการเมืองหลายท่าน ผมจึงคิดว่าผมจะมาทำงานหน้าบ้านบ้าง หลังจากที่ผมทำงานหลังบ้านมานาน ผมคิดว่าตัวผมเองมีประโยชน์กับสังคมไทย ผมจึงขอเสนอตัวมารับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชน" ทนายออด กล่าว

"ทนายออด"ยังได้ถ่ายทอดความรู้สึก หลังจากการลงพื้นที่มาระยะหนึ่ง ในเขตบางกอกน้อย และ บางพลัด ว่า  มีผู้สูงอายุเยอะ ผู้ป่วยทุพพลภาพเยอะ และมีชุมชนเยอะ ซึ่งสถานะเรียกได้เลยว่าลำบาก ประกอบกับที่รัฐบาลบริหารประเทศมาทำให้เศรษฐกิจถดถอยเป็นปัจจัยที่ทำให้คนลำบากยิ่งกว่าเดิม 

"แค่ข้ามฝั่งพระนคร แค่ข้ามสะพาน จะเจอสภาพแบบนี้ ไม่คิดเลยว่านี่ จะเป็นกรุงเทพมหานคร ความเหลื่อมล้ำคนรวยกับคนจนเห็นได้ชัดมาก บ้านสังกะสี เงยหน้าขึ้นไปเป็นคอนโด มันเกิดขึ้นจริงในท้องที่ที่เคยไปสัมผัสมา ผมไม่รู้นะว่ามีรัฐบาลมากี่รัฐบาลแล้ว มีผู้แทนมากี่คน แต่สภาพมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปซักเท่าไหร่ คนลำบากก็ลำบากมากๆ และลำบากลงเรื่อยๆ ห้องหนึ่งห้องต้องใช้ทุกอย่าง ทางเดินเข้าบ้าน เดินไปสายไฟตกลงมาแทบจะเกี่ยวคอ สิ่งที่ผมเห็นแล้วมันเป็นอันตรายถึงชีวิตผมก็พอจะช่วยประสานงานได้ ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผมก็ทำทันที คนที่เป็นผู้แทนอยู่ คนที่ได้รับเลือกตั้งเข้าไป คนที่ประชาชนไว้วางใจหายไปไหนกันหมด เขาไม่มาเดินดูเหรอ" ทนายออด ระบุ

"ทนายออด"มองว่า ความจริงเรื่องปากท้องเป็นปัญหาอันดับหนึ่ง คนไม่มีกินไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียนไม่มีเงินไปทำงาน ถัดมาเป็นเรื่องสุขภาพ คนป่วยคนชราไม่ได้รับการรักษาตามสภาพที่ควรจะเป็น ตอนเดินลงพื้นที่ ชุมชนบางกอกน้อย เจอผู้หญิงคนหนึ่งเดินถือไม้เท้า เมื่อสอบถามได้ความ เป็นมะเร็งกระดูก เขาบอกรักษา รพ.กลาง 

"ผมถามใช้สิทธิอะไรรักษา เขาบอกประกันสังคม หมอบอกใกล้ตายละ ให้กลับมาอยู่บ้าน เขาพูดเหมือนหมดหวังว่าเดี๋ยวก็ตายแล้ว ผมไม่รู้หรอกว่า จะเจอแบบนี้อีกเท่าไหร่ แต่ว่ามีแบบนี้ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ คือไม่มีญาติพี่น้อง ต้องอาศัยคนในชุมชนคอยช่วยเหลือมาหาข้าวให้ มาพาไปหาหมอหูข้างที่หมอนัด สาธารณสุขไทยเป็นแบบนี้เหรอ คนทำงานเสียภาษีมาดูแลเขาแบบนี้เหรอ ผมว่ามันไม่ใช่ ปัญหาสุขภาพเป็นปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน"

ทั้งนี้"ทนายออด" แสดงความมั่นใจว่า ปัญหาที่พบเจอในการลงพื้นที่  พรรคไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค มีนโยบายที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมยกนโยบายสำคัญที่ผู้สูงอายุ จะได้รับประโยชน์เต็มๆคือนโยบายบำนาญประชาชน หรือเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน  ซึ่งบางคน อาจจะไม่เยอะ แต่สำหรับหลายๆ คนมีความหมายมาก เขาสามารถใช้ 3,000 บาทนี้ดำรงชีพได้ให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ค่าของชีพสูงขึ้น 

โดยเบี้ยคนชราที่รัฐบาลให้อยู่ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าจะมีคนได้ถึง 1,000 กี่คน มันไม่พอสำหรับการดำรงชีพในปัจจุบันแล้ว ก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งกินไม่ได้ กินได้แต่มาม่า ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นภาระให้ลูกหลาน ซึ่งนโยบาย 3,000 บาทหาร 30 วัน ตกมาได้วันละ 100 บาท ถ้าอยู่กันสองคนตายาย ก็รวมเป็น 6,000 บาท มันก็ยังพอใช้ ลูกหลานที่ออกไปทำงานข้างนอกอาจจะเพิ่งเรียนจบใหม่หรืออาจจะไม่มีหน้าที่การงานที่สูงนัก เงินเดือนไม่ได้มากนัก ก็ลดภาระไป 6,000 บาท ลูกหลานจะได้เก็บเงินส่วนนี้ไปไว้ทำทุนตั้งตัว อาจจะพูดไม่ได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ จะเอาเงินไปทำทุนแต่เขาก็จะมีเงินใช้เมื่อยามจำเป็น จึงทำให้คนในพื้นที่สนใจนโยบายนี้ 

ขณะเดียวกัน เวลาลงไปตามชุมชนแค่พูดชื่อพรรค ประชาชนก็จะถามว่าพรรคที่มีนโยบายบำนาญ 3,000 ใช่ไหมรออยู่ ช่วงหนึ่งผมไปหาเสียงผ่านธนาคารกรุงไทย เจอคนสูงอายุทั้งนั้น ที่ไปรอลงทะเบียนบัตรประชารัฐหรือบัตรคนจน 300 บาท มารอตั้งแต่ตีห้า ผมไปเจอตอนเที่ยง มีแต่คนแก่ทั้งนั้น ที่ไปนั่งรอ ซึ่งรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มากกว่านี้ ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้ร่างกฏหมายฉบับนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ยื่นเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เหลือแค่รอรัฐบาลใหม่ รอสมาชิกจากพรรคไทยสร้างไทยไปยกมือสนับสนุนนโยบายนี้

นอกจากนี้  ลูกหลานเรา จะมีสิทธิ์เรียนฟรีการศึกษาขั้นพื้นฐานจนจบปริญญาตรี โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินไม่ต้องกู้ กยศ.อีกต่อไป ผมเชื่อว่าการจะสร้างคนสร้างชาติก็ต้องสร้างการศึกษา ปกติกระทรวงการศึกษาหาแต่เสื้อโหลให้นักเรียนใส่ ไม่คิดจะตัดเสื้อไซส์ ตามนักเรียนแต่ละคน นโยบายของพรรค จะทำให้นักเรียนเลือกโรงเรียน ไม่ใช่โรงเรียนเลือกนักเรียนอีกต่อไป โรงเรียนต้องเกิดการแข่งขัน พรรคเรายังมีนโยบายดีๆอีกมากมาย เช่น ล้างบางยาเสพติด หวยบำเหน็จ

ในขณะที่หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ มีประสบการณ์ในการทำงาน 30 ปีที่ทำงานการเมืองมา ประสบการณ์ตรงนี้มีคุณค่ามหาศาล การที่คนคนหนึ่งจะเป็นรัฐมนตรีอยู่หลายกระทรวง บริหารงานใหญ่ๆผลักดันนโยบายต่างๆให้ประชาชนได้ประโยชน์ น้อยคนจะทำได้ นอกจากคุณหญิงสุดารัตน์ ที่จุดแข็งของพรรคไทยสร้างไทยแล้ว เรายังมีนโยบายต่างๆที่ได้คิดืได้รังสรรค์ออกมาให้เหมาะสมกับคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพที่ คุณหญิงสุดารัตน์ มีความรักและผูกพันมาโดยตลอด 30 กว่าปีที่ทำงานการเมืองมา อันนี้คือจุดแข็งของพรรคไทยสร้างไทยที่พรรคอื่นไม่มี 

สำหรับแนวทางการหาเสียง ผมจะพยายามเข้าถึงพี่น้องประชาชนได้มากที่สุด เป็นสิ่งที่เราจะสามารถทำได้ในเบื้องต้นก่อนที่จะเป็นผู้แทน ทุกวันนี้ผมเดินหาเสียงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่เขตบางพลัดบางกอกน้อย ทุกวัน เดินไปตามตรอกซอกซอยและ ตรงไหนที่รถไปไม่ถึง ผมก็จะเดินเข้าไป 

"ชุมชนในบางพลัด 48 ชุมชน บางกอกน้อยอีก 31 ชุมชน ผมสามารถเดินเข้าไปเคาะประตูบ้าน เข้าไปนั่งในบ้านเขาได้เลย ส่วนบ้านมีรั้วกับคอนโด แม้เข้าไปไม่ได้ ผมมีช่องทางการสื่อสารทาง Facebook ชื่อ ณัฐวัฒน์ พอใช้ได้  LINE และ tiktok และ IG ชื่อว่า @oodforchange สามารถเข้าไปติดตามกันได้ เข้ามาแจ้งปัญหาได้ บางทีเราไม่สามารถเจอกันตัวต่อตัวได้ แต่เราสามารถคุยกันผ่านโซเชียลมีเดียได้" 

ทั้งนี้เทคโนโลยีจะทำให้เรารู้สึกอยู่ใกล้กัน หลายข้อความที่เข้ามาหาผม ผ่าน Facebook ก็มาจากบ้านมีรั้วเพราะผมไม่สามารถเข้าไปหาเขาได้ จะมารายงานปัญหาเรื่องทางเท้า  ทางขึ้นรถไฟฟ้า  ทางชุมชนจะแจ้งผมได้โดยตรง ซึ่ง LINE ผมให้ทีมงานช่วยออกแบบให้ตรงกับสถานการณ์สามารถแจ้ง เรื่องผู้ป่วยทุพพลภาพ เพื่อผมจะเก็บสถิติไปพัฒนานโยบาย หรือเอาไว้แนะนำสถานที่ต่างๆ ที่น่าไปเที่ยว แจ้งเข้ามาได้ผมจะรวบรวมและเอาไปขยายผลต่อ และอีกทางเอาไว้แจ้งปัญหา ผมจะช่วยติดตามให้ปัญหานั้นคลี่ลคายและได้รับการแก้ไข ผมจะประสานให้ทันท่วงที่ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บ้านมีรั้วกับผมไม่รู้สึกห่างไกลกัน เขาจะได้เห็นผมทำงานทุกๆวันผ่านโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ผมเปลี่ยนการเดินหาเสียง ให้เป็นการเดินแก้ไขปัญหา  เพราะแทบทุกครั้งของการลงพื้นที่ ปัญหาที่พ่อแม่พี่น้องต้องพบเจอหลักๆ คือเรื่องขยะในลำคลอง สายไฟหย่อน และทางชำรุด ปัญหาที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนแย่ลงแต่รัฐบาลไม่เคยมองเป็นเรื่องใหญ่ จึงไม่ได้รับการแก้ไขเสียที 

"พอแล้วครับ ผมว่าถึงเวลาแล้วที่พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องทน ไม่รออีกต่อไป เราจะขออาสาเป็นสื่อกลาง ขยายเสียงแห่งความทุกข์ของทุกท่านไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเราให้ดีขึ้น "

"ทนายออด" ยังได้ย้ำว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ผม และ ไทยสร้างไทย ขอ "สู้เพื่อชัยชนะของประชาชน" #PeopleMustWin หยุดสงครามการเมือง 2 ขั้ว "Last War" เสนอตัวเป็นทางรอดของประเทศ  พร้อมผลักดันให้ทุกนโยบายของพรรคเป็นจริง คุณภาพชีวิตของพ่อแม่พี่น้องดีขึ้นครับ เราสู้เพื่อชัยชนะของประชาชน และ เลือกคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายก


 

TAGS: #ทนายออด #ไทยสร้างไทย #เลือกตั้ง66