ประธาน กกต. ชี้ปรับปรุงคณะที่ปรึกษากฎหมาย ตามความเหมาะสม ไม่เกี่ยว"สุรพล"เป็นพยานคดียุบก้าวไกล พร้อมจับตา ดีลซื้อส.ส.งูเห่า ถ้าซื้อจริงผิดกฎหมาย
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผย กรณี กกต.มีการปรับปรุงคณะที่ปรึกษากฎหมายที่มีนายสุรพล นิติไกรพจน์ ซึ่งเป็นพยานคดียุบพรรคก้าวไกลรวมอยู่ด้วย ว่า เรื่องนี้ กกต. ได้ชี้แจงไปแล้วว่าช่วงเวลานี้ได้มีกรรมการคนอื่นลาออกไป กกต. ก็ได้มีระเบียบ ว่าด้วยการแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการเป็นอนุกรรมการ และถึงเวลาที่จะทบทวนว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการต่างๆ ควรจะเป็นใครอย่างไร ซึ่งคงจะเป็นช่วงจังหวะพอดี จึงมีการเอาไปเชื่อมโยงกัน
เมื่อถามย้ำว่าไม่ใช่เพราะนายสุรพล มีความเห็นแย้งกับ กกต. และนำความลับไปช่วยคู่กรณี นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่ใช่ความลับ เพราะความเห็นทางกฎหมายทางวิชาการ เป็นเรื่องที่เราไม่คิดจะไปแทรกแซงอยู่แล้ว การที่ กกต. มีคณะอนุกรรมการ ด้านใดด้านหนึ่ง เวลา กกต. มีประเด็นด้านใดก็สามารถขอความคิดเห็นได้ เมื่อให้ความเห็นก็ไม่ใช่เรื่องผูกพันที่กกต. จะต้องทำตาม แต่จะพิจารณาเมื่อความเห็นเป็นประโยชน์ก็นำมาประกอบการพิจารณา กกต.
ประธาน กกต. กล่าวอีกว่า ส่วนวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล กกต. ก็จะมีการติดตามสถานการณ์ตามปกติ ซึ่งการพิจารณาก็เป็นเรื่องของศาล ส่วนที่พรรคก้าวไกลระบุว่า กกต. ไม่มีการเชิญมาชี้แจง ทำให้เกิดข้อกังวลนั้น ขณะนี้อีกไม่นานศาลรัฐธรรมนูญก็จะอ่านคำวินิจฉัย ส่วนตัวเห็นว่าด้วยความเคารพศาลไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะเคยให้ความคิดเห็นไปก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อถามว่ายังไม่มีคำวินิจฉัยแต่มีกระแสข่าวซื้อตัวสส. เรื่องนี้กกต. จะติดตามอย่างไรบ้าง นายอิทธิพร กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับ การปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย หรือฝ่าฝืนกฎหมาย กกต. ก็ติดตามข่าว ซึ่งสามารถติดตามและแสวงหาข้อมูลเองได้ โดยเบื้องต้นก็ต้องดูให้แน่ใจก่อนว่าข่าวนี้ มีพื้นฐานความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน หรือเป็นการคาดคะเน
เมื่อถามย้ำว่าหากมีการซื้อขายกันจริงถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า น่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยต้องรอให้มีข้อเท็จจริงมากกว่านี้ก่อน
เมื่อถามว่าข้อโต้แย้งของพรรคก้าวไกลทางกกต. มีความห่วงกังวลอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ในระหว่างนี้ใกล้เวลาที่ศาลจะพิจารณาแล้วตนขอไม่ให้ความเห็นอะไรเพิ่ม จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยให้คู่กรณี ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ความเห็นที่อาจจะเป็นการชี้นำหรืออาจจะกระทบต่อศาล ในฐานะหน่วยงานที่ทำเรื่องนี้ขอไม่ให้ความเห็นเพิ่มเติม
เมื่อถามว่าที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. ออกมาโพสต์สถิติการยุบพรรคการเมืองในทวีปยุโรปมีนัยยะสำคัญอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ นายแสวงดำเนินการตามกรอบอำนายหน้าที่ในฐานะเลขาธิการกกต. ไม่ใช่เป็นการดำเนินการตามมติ หรือความเห็นของ กกต. ก็ย่อมทำได้อยู่แล้ว ไม่มีนัยยะอะไรที่เกี่ยวกับกกต. มองว่าเลขาธิการ กกต. พยายามจะหาข้อมูลมาให้ประชาชนรับทราบ