“จุรินทร์” จัดหนักรัฐบาลทำงบ 68 “ขี้ฮก ทั้งขี้เหร่ ไม่ต่างจากปี 67 จี้แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท เป็นนโยบายเรือเกลือ ยังหาเงินแจกไม่ได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า รัฐบาลทำงบประมาณแบบ “ขี้ฮก ทั้งขี้เหร่”
เรื่องแรก การเก็บราย ได้น้อยราย ขณะที่รายจ่ายสูง ทำมให้ต้องทำงบขาดดุลกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลมากขึ้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้มาก ซึ่งในงบประมาณมีการประเมินรายได้เอาไว้เพียงแค่ 76.9% ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว ไม่ตรงกับที่นายกรัฐมนตรีสัญญากับสภาเอาไว้
เรื่องที่สอง การขาดดุลงบประมาณเพิ่มมหาศาล สูงถึง 24.9% หรือราว 8.6 แสนล้าน ซึ่งปีที่แล้วตั้งงบขาดดุลไว้เพียงแค่ 6.9 แสนล้าน นายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าขาดดุลเพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น
เรื่องที่สาม 2 ปีรัฐบาล กู้มาชดเชยการขาดดุลถึง 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึงการกู้มาแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้าน รวมบริหารสองปีกู้เกือบ 2 ล้านล้านบาท
เรื่องที่สี่ คือการตั้งจีดีพีเกินจริง เพราะ ตัวเลขประมาณการจีดีพีปี 2567 ขึ้นมา 4.1% แต่จากสถาบันต่างๆรายงานว่าบวกขึ้นมาแค่ 2% ขณะเดียวกันในปี 2568 รัฐบาลประมาณการจีดีพีสูงถึง 4.9% เป็นการตั้งจีดีพีจากจีดีพีเดิมที่เกินจริงอยู่แล้ว จึงกลายเป็น “จีดีพีฟองสบู่” แต่หลายสถาบันประเมินแล้วว่าในปี 2568 จีดีพีของประเทศจะโตเพียงแค่ 3%
เรื่องที่ห้า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จากนโยบายเรือธงกลายเป็นนโยบายเรือเกลือไปแล้ว รัฐบาลสัญญากับประชาชนแจกแน่ในไตรมาส 4 แจกรวดเดียว 500,000 ล้านบาท หมายความว่าต้องมีเงินครบทั้งหมดจึงจะแจกได้ คืองบปี 2568 - งบปี 2567- กู้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนักวิชาการต่างยืนยันว่าไม่สามารถนำมาให้รัฐบาลกู้ได้เพราะเป็นเงินสำหรับเกษตรกรฝืนทำไปก็จะผิดกฎหมาย
ดังนั้นตนเองจึงขอถามรัฐบาลว่ายังไม่มีเงินซักบาทที่จะใช้ในโครงการนี้หรือไม่เพราะยังรออนุมัติงบประมาณจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลมีความพยายามที่จะใช้งบงบประมาณในปี 2567 ให้น้อยที่สุดเพื่อจะได้เหลือเงินไปสมทบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากรัฐบาลใช้วิธีการนี้จริงเป็นการทำงานที่ใจดำมากเพราะจะทำให้จีดีพีของประเทศในปี 2567 ต่ำ
นอกจากนี้ จนถึงตอนนี้รัฐบาลยังไม่ถามความเห็นจากกฤษฎีกา ว่าการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์มาใช้ในโครงการดิจิตอลวอลเล็ตทำได้หรือไม่ หากดำเนินการโครงการไปแล้วแต่ผิดกฎหมายใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นอนาคตยังเหมือนกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย ดังนั้นการตั้ง งบประมาณปี 2568 ก็ยังคงเป็นงบประมาณ “เป็ดขี้เหร่”