กกต.ยัน"สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ชอบด้วยกฎหมาย" หลังถูกวิจารณ์แบ่งเขตสับสน ไม่เป็นกลาง แจงขั้นตอนการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. โปร่งใส ทุกขั้นตอน ทั้งการนับคะแนน การประกาศผล ทำตามกฎหมาย
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงการนับคะแนนเลือกตั้ง ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดกระแสข่าวและการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการนับคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ว่า ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ได้กำหนดขั้นตอนและกระบวนการดำเนินการหลังปิดการออกเสียงลงคะแนน และการนับคะแนน ณ ที่เลือกตั้ง
1. เมื่อถึงเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ประกาศปิดการออกเสียงลงคะแนน แต่ถ้ายังมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งประสงค์จะออกเสียงลงคะแนนได้มาปรากฏตัวอยู่ในที่เลือกตั้งเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ก่อนแล้ว ให้ กปน. อนุญาตให้บุคคลเหล่านั้นแสดงตนและมอบบัตรเลือกตั้งเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนเสร็จสิ้นแล้ว จึงให้ประกาศปิดการออกเสียงลงคะแนนและให้ กปน. ลงลายมือชื่อในป้ายสำหรับปิดช่องใส่บัตรเลือกตั้ง แล้วนำป้ายดังกล่าวปิดทับช่องใส่บัตรเลือกตั้งบนหีบบัตรเลือกตั้ง
2. กปน.ตรวจสอบบัตรเลือกตั้งที่ใช้ไปกับบัตรเลือกตั้งที่เหลือให้ถูกต้องครบถ้วน ตรงกันกับบัตรเลือกตั้งที่รับมาทั้งหมด โดยลงลายมือชื่อกำกับไว้ตามแบบทุกคน กรณีไม่ถูกต้องตรงกัน ต้องบันทึกเหตุดังกล่าวไว้ และรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยต่อไป
3. กปน.ดำเนินการนับคะแนน โดยเปิดหีบบัตรเลือกตั้งต่อหน้าประชาชนที่ อยู่ ณ ที่เลือกตั้งซึ่งต้องกระทำ ณ ที่เลือกตั้งอโดยเปิดเผยและนับติดต่อกันให้เสร็จ จะเลื่อนหรือประวิงเวลาการนับคะแนนไม่ได้
4.เมื่อนับคะแนนแล้วเสร็จ กปน.จะประกาศผลคะแนนและจัดทำรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง (ส.ส. 5/18, ส.ส. 5/ 18 (บช) ปิดไว้หน้าหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชน ผู้สังเกตการณ์ และผู้แทนพรรคการเมืองสามารถตรวจสอบได้
5. กปน.แต่ละหน่วยเลือกตั้ง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ดำเนินการส่งผลคะแนนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง
6.เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้รับคะแนนจาก กปน.แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ตรวจสอบความถูกต้อง จำนวนบัตร สิ่งของ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ให้ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วลงลายมือรับไว้ทั้งสองฝ่ายเป็นหลักฐาน
7.คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง รวมผลคะแนนของทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตนั้น เมื่อครบล้วนสมบูรณ์แล้ว ให้ดำเนินการประกาศผลคะแนนในเขตเลือกตั้งนั้น แล้วส่งผลคะแนนให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
8.เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ได้รับผลคะแนนจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทุกเขตในจังหวัดแล้ว ให้นำผลคะแนนการเลือกตั้งที่เป็นทางการส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการเลือกตั้งต่อไป
สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดให้มีการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ (ECT Report) ตามมาตรา 120 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูล และมีส่วนร่วมสังเกตการณ์ในการนับคะแนน โดยหลังจาก กปน. นับคะแนนและตรวจสอบความถูกต้องในแบบรายงาน ส.ส. 5/18 เรียบร้อยแล้ว จะนำไปติดหน้าหน่วยเลือกตั้งให้ประชาชนได้ดูและตรวจสอบ พร้อมทั้งส่งคะแนนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อใช้กรอกลงในระบบ ECT Report ต่อไป
โดยประชาชนสามารถติดตามผลคะแนนได้อย่างต่อเนื่องจากสื่อมวลชนที่มาเชื่อมต่อระบบ และสามารถทราบผลคะแนนในคืนวันเลือกตั้งได้ทันที สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอยืนยันว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ดำเนินการนับคะแนน ณ ที่เลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามระเบียบดังกล่าวให้เป็นไปโดย "สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย" เป็นสำคัญ
อนึ่ง ช่วงที่ผ่านมา กกต.ถูกวิจาณ์จากฝ่ายการเมือง นักเคลื่อนไหว ฝ่ายค้านถึงการทำหน้าที่ที่อาจไม่เป็นกลาง และ กรณีทีมีกระแสข่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่า ในบางจังหวัดมีการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ การแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในหลายพื้นสร้างความสับสน ให้ประชาชน เพราะแบ่งเขตเลือกตั้งแบบไม่ตาม หลักรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่า ผู้มีอำนาจและอิทธิพลบางกลุ่ม บางคนสั่งการให้แบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.ตามที่ผู้มีอำนาจต้องการเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองบางพรรค