ถกงบฯ67วาระ 2-3 กมธ.ปรับลดกว่า 9,204ล้านบาท

ถกงบฯ67วาระ 2-3 กมธ.ปรับลดกว่า 9,204ล้านบาท
"ภูมิธรรม"รายงาน พ.ร.บ.งบ 67 วาระ2 ปรับลดไปกว่า 9,204 ล้านบาท ย้ำให้ความสำคัญเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทาประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมีระเบียบวาระพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2 และ 3 

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 กล่าวสรุปสาระสำคัญการพิจารณาพ.ร.บ.งบ67 ดังกล่าวพิจารณาได้รวดเร็วกว่าเดิม 2 สัปดาห์ เพราะตระหนักดีว่าปัญหาของประชาชนไม่อาจรอต่อไปอีกได้จำเป็นต้องได้รับงบประมาณเพื่อทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด โดยดำเนินการ ประชุมพิจารณางบประมาณ ยึดหลักเป็นองค์คณะหนึ่งเดียวกันไม่แบ่งฝั่งเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการพิจารณางบประมาณที่มีประสิทธิภาพถูกต้องรอบคอบโดยมีเป้าหมายให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุดและยึดหลักการให้ความเคารพในการแสดงความเห็นที่แตกต่างของที่ประชุม ซึ่งร่วมกันพิจารณางบประมาณจากหน่วยรับงบประมาณ 737 หน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณซึ่งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนหน่วยรับงบประมาณภายใต้หลักธรรมาภิบาล สุจริต โปร่งใส และเป็นธรรม

คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ปรับลดงบประมาณลงจำนวน 9,204,109,400 บาท 

โดยรายการที่ปรับลดเป้าหมายหรือปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานให้เกิดความประหยัด เช่น การฝึกอบรมสัมมนา , การจ้างเหมาบริการ , การจ้างที่ปรึกษา , การจัดการประชาสัมพันธ์ , การเดินทางไปราชการต่างประเทศ เป็นต้น รายการที่มีผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้และคาดว่าจะไม่สามารถใช้จ่ายได้ทันในปีงบประมาณ หรือ รายการผูกพันงบประมาณเดิมที่ผลการจัดซื้อจัดจ้างต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่เสนอไว้ ,รายการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือที่ดำเนินการไปแล้วโดยใช้จ่ายจากการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณหรือการเปลี่ยนแผนปฏิบัติงาน , รายการที่สามารถยกเลิกโครงการที่หมดความจำเป็นหรือสามารถใช้จ่ายเงินจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากเงินงบประมาณได้ 

สำหรับการเพิ่มงบประมาณนั้นคณะกรรมการวิสามัญได้พิจารณาเพิ่มงบประมาณให้หน่วยรับงบประมาณตามความเหมาะสมและจำเป็นและหน่วยงานของศาล องค์การอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์การอัยการเพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่รวมจำนวนทั้งสิ้น 9,204, 109,400 บาทซึ่งเป็นวงเงินตามจำนวนที่ปรับลดงบประมาณได้

ทั้งนี้ คณะกรรมการวิสามัญ ให้มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 ได้แก่การเปลี่ยนแปลงงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแผนงานบุคลากรภาครัฐรายการบุคลากรภาครัฐจำนวน 191,196,700 บาท ไปเป็นงบประมาณรายจ่ายขององค์กรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเป็นเงินอุดหนุนสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้แก่องค์กรบริหารส่วนจังหวัด 43 แห่งซึ่งเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ.ศ 2542

อย่างไรก็ตาม การพิจารณารายละเอียดทั้งการปรับลดการเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าว คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ความซ้ำซ้อน เป้าหมายการดำเนินงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจสำคัญเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน และประโยชน์ของประชาชนโดยตรงเป็นสำคัญรวมทั้งสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตและมีความเข้มแข็งรองรับผลกระทบทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพเพื่อให้สามารถดำเนินงานภายในกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายจำนวน 3,480,000,000,000 ล้านบาท 

จากนั้นได้เริ่มอภิปรายวาระ2 ซึ่งในมาตรา2 ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หนึ่งในฐานะกรรมาธิการ สงวนคำแปลญัตติไว้ อภิปรายว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 นี้มีงบใช้ไปพลางก่อน ซึ่งบัญญัติให้ใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 66 เป็นต้นไป ซึ่งงบประมาณ บางอย่างที่ได้เข้าอนุกรรมาธิการได้ใช้ไปพลางก่อนแล้ว ถึงได้มีการตัดงบ ดังนั้นจึงขอตัดคำว่า  1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป แก้เป็นถัดจากวันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป แล้วให้ถือว่ารายจ่ายงบประมาณประจำปี 2567 ที่ใช้ไปพลางก่อน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 141 ถือเป็นส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัตินี้

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.พรรคเพื่อไทยหนึ่งในฐานะกรรมการ ได้ชี้แจง ยืนยันตามเสียงข้างมากในกรรมการที่จะไม่มีการแก้ไข 

ดังนั้น ต้องมีการลงมติในมาตรา 2 ซึ่งผลสรุปคือ 342 เสียงเห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ฉะนั้นมาตรา 2 จึงถือว่าเห็นด้วยกับเสียงข้างมากของกรรมาธิการคือไม่มีการแก้ไขข้อความ

TAGS: #ประชุมสภา #งบ67 #กมธงบ #ภูมิธรรม