“อดุลย์”ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง”เพื่อไทย”เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมืองกระตุก”ทักษิณ” ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข จี้นายกฯเร่งออกพรก.นิรโทษกรรมให้สังคมเกิดความปรองดอง
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึง พรรคเพื่อไทย เรื่อง นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยมีความขัดแย้งกันต่อเนื่อง 10 กว่าปีแล้ว ส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคม สร้างความรักสามัคคีของคนในชาติมาโดยตลอด มีความห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มีข้อยุติความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และความมั่นคงของชาติ เป็นอุปสรรคสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาบ้านเมือง จึงอยากให้คนในชาติมีความรักสามัคคี เพื่อสังคมไทยเกิดสันติสุขโดยเร็ว
คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 มีความเห็นว่า สังคมไทยต้องมีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ อย่างแท้จริง และขณะนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่มี นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกมธ. เพื่อศึกษาหลักเกณฑ์และแนวทางการนิรโทษกรรมให้ได้ข้อยุติ ก่อนเสนอเป็นร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยพิจารณาภายใน 60 วัน
อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการวิสามัญฯแสดงเจตนาชัดเจนเตะถ่วงเวลาพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวที่จะให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ตามกรอบเวลา และยังได้ตั้งคณะอนุ กมธ.ขึ้นมา เพื่อศึกษาและแยกแยะหมวดหมู่ของคดีทางการเมืองที่มีอยู่ เพื่อให้ กมธ.ชุดใหญ่ ยื้อเวลาออกไปอีก แสดงว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีเจตนาชัดเจนต้องการถ่วงเวลา โดยเอาประชาชนทุกเสื้อสีที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมโปรงใส่ของบ้านเมืองเป็นตัวประกันทางการเมือง เป็นการหลอกลวงประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น
สำหรับกรณีที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษหนีคดีทุจริต 8 ปี กลับมาได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุก 1 ปี ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และบัดนี้อดีตนายกฯทักษิณ ได้รับการพักโทษกลับไปอยู่บ้านกับครอบครัวอย่างอบอุ่นแล้ว จึงควรมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข โดยร่วมผลักดันการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองให้กับประชาชนทุกกลุ่มเช่นกัน อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แล้วทิ้งประชาชนที่เคยช่วยเรียกร้องต่อสู้ให้กับตัวเอง ต้องรู้จักการเสียสละให้คนอื่นด้วย จึงจะได้ความรักกลับคืนมา
คณะกรรมการญาติวีรชนฯ จึงขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี นำเสนอคณะรัฐมนตรี ออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ตามแนวทางของคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ได้มีการศึกษาเรื่องการนิรโทษกรรมไว้อย่างรอบคอบ ครอบคลุมทุกมิติและตกผลึกแล้ว โดยที่ประชุมสปช.ได้ลงมติเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ และเสนอต่อรัฐบาลไปแล้ว ต่อมาสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานภาฯก็ได้มีมติเห็นชอบอย่างเอกฉันท์เช่นกัน จึงไม่ต้องซื้อเวลาอีกต่อไป และเชื่อว่าหากดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวจะทำให้สังคมไทยเกิดความปรองดอง สมานฉันท์ คนในชาติเกิดความรัก สามัคคี บรรยากาศทางการเมืองจะกลับคืนสู่ปกติ ประชาชนทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองตลอดไป
ทั้งนี้หาก นายกรัฐมนตรี ไม่ดำเนินการออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง คณะกรรมการญาติวีรชนฯ มีความจำเป็นต้องยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสต่อไป