“จุรินทร์” ตั้งฉายางบฯ ฉบับ“เป็ดง่อย”ฉะ รัฐบาล กู้เงินเพิ่ม 1 แสนล้าน เป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” ลั่นหากงบฯ ไม่ผ่าน ควรยุบสภาฯ หรือลาออก หรือไม่นายกฯ ก็เลิกใส่ถุงเท้าสีแดง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 ว่า แม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เรียนว่าพ.ร.บ.งบประมาณรายปีเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลเสนอแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่ก็ยุบสภาฯ ซึ่งก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่มีหน้าที่ต้องไประดม สส. รัฐบาลมาลงคะแนนเสียงให้ได้ และเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะผ่านการพิจารณาวาระแรกได้ เพราะรัฐบาลมีเสียง สส. ในสภาฯ แบบเด็ดขาด ถึง 314 เสียง ถ้าไม่ผ่านตนคิดว่านายกรัฐมนตรี ต้องเลิกใส่ถุงเท้าสีแดงได้แล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบทั้งตัวงบประมาณฯ และผู้ใช้งบประมาณฯ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวคำแถลงมาทุกอย่างดีหมด ซึ่งงบประมาณฉบับนี้ ถือเป็นงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ เกิดจากการเอางบประมาณ ปี 66 ซึ่งเป็นของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ มารื้อทำใหม่หมด ส่งผลให้ปฏิทินงบปีนี้ล่าช้าไปกว่า 9 เดือน เนื่องจากใช้เวลาไปตั้งรัฐบาล “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” อยู่หลายเดือน แต่หลัง ครม.มีมติให้รื้องบประมาณดังกล่าว ก็ใช้เวลาอีกหลายเดือนเช่นเดียวกันกว่าจะกลับเข้าสู่สภาฯ ได้ ทำให้งบประมาณฉบับนี้ต้องไปบังคับใช้ประมาณเดือนพ.ค.จึงส่งผลให้งบประมาณฉบับนี้ เป็นงบฯ ฉบับเป็ดง่อย เพราะงบประมาณทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท รัฐบาลมีเวลาใช้เงินแค่ 5 เดือน จากปกติปกติ 12 เดือน เท่ากับว่ามีเวลาใช้เงินแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญคือประสิทธิภาพของการใช้เงิน เรื่องของใช้เงินงบลงทุนที่เป็นหัวใจสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเวลาใช้เพียง 5 เดือน สุดท้ายก็จะเป็นงบ “เป็ดง่อย” ไม่สามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้เต็มร้อย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีจำนวน 34 คน แต่โลกลืมไปแล้วจำนวนกี่คน สองมือรวมกันนิ้วยังมีไม่พอให้นับ โดยนายกรัฐมนตรีพยายามตีปี๊บบอกว่า เศรษฐกิจกำลังวิกฤตต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจแบบขนาดใหญ่ แต่ขณะเดียวกันงบประมาณแผ่นดิน ที่มีผลต่อ GDP ถึงร้อยละ 18 กลายเป็นเป็ดง่อย แล้วจะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายได้อย่างไร ยืนยันว่า งบประมาณที่นายกรัฐมนตรีไปสั่งรื้อนั้น ไม่มีอะไรเข้ามาใหม่ เป็นงบที่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาดำเนินการ และยังมีอีกหลายเรื่องที่แย่กว่าเดิม
โดยแบ่งเป็น 4 ประเด็น คือ 1. งบฉบับนี้ยังขาดดุลเหมือนเดิม และจะขาดดุลต่อไปจนครบอายุรัฐบาลนี้คือ 4 ปีเต็ม 2.งบประมาณของรัฐบาลชุดนี้เพิ่มขึ้น แต่งบการลงทุนน้อยลงกว่าเดิม แต่กลับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำแทนคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ 3.งบกลาง ซึ่งพอไปดูเนื้อในแล้ว เป็นงบสำหรับกรณีฉุกเฉิน ที่เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีโดยตรง กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยต่อว่ารัฐบาลที่ผ่านมา แต่กลับทำเสียเอง เข้าทำนองว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง 4. งบประมาณฉบับนี้เป็นงบประมาณคิดใหญ่ ทำเป็น แต่กลับมาเป็นคิดกู้ ทำกู้ ซึ่งสิ่งรัฐบาลที่แล้วทำไว้ คือกู้ 5.93 แสนล้าน แต่รัฐบาลนี้นำไปรื้อ กลายเป็นกู้เพิ่มขึ้นเป็น 6.93 แสน กู้เพิ่มขึ้นแสนล้านบาท ทั้งที่พวกท่านเคยวิจารณ์รัฐบาลที่แล้วว่าเป็นนักกู้แห่งแม่น้ำเจ้าพระยาแต่ตนคิดว่ารัฐบาลนี้กลายเป็น "นักกู้ถุงเท้าสีชมพู"