มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (ASU) และพันธมิตรจากประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์
มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (ASU) และพันธมิตรจากประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ให้การต้อนรับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) ของประเทศไทย ในการเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8–9 กันยายน 2568
ศาสตร์ด้าน STEM และไมโครอิเล็กทรอนิกส์เป็นปัจจัยหลักในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ท่ามกลางบริบทภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานและการมีบุคลากรทักษะสูงจึงเป็นหัวใจสำคัญ ภาครัฐและสถาบันอุดมศึกษามีบทบาทในการขับเคลื่อนและรับมือความท้าทายดังกล่าว
เมื่อวันที่ 8–9 กันยายน 2568 มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (Arizona State University – ASU) ให้การต้อนรับคณะผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่ “ขับเคลื่อนโดย ASU – Powered by ASU” โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปสำคัญคือการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อขยายความร่วมมือด้านวิชาการ งานวิจัย และการพัฒนากำลังคนในสาขาไมโครอิเล็กทรอนิกส์
คณะผู้แทนไทยนำโดย ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมด้วยนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ดร. สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และรองศาสตราจารย์ ดร. ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT)
ความร่วมมือครั้งนี้สานต่อภารกิจวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม ภายใต้การนำของ Mr. Jeffrey Goss รองอธิการบดีฝ่ายโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คณะวิศวกรรมศาสตร์ Ira A. Fulton แห่ง ASU ซึ่งได้จัดประชุมโต๊ะกลมร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไทย สมาคมการพิมพ์แผ่นวงจรไทย ศูนย์ไมโครอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และผู้แทนภาคอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือในระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ของไทย
สำหรับ ศาสตร์ด้าน STEM และไมโครอิเล็กทรอนิกส์เป็นปัจจัยหลักในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ท่ามกลางบริบทภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานและการมีบุคลากรทักษะสูงจึงเป็นหัวใจสำคัญ ภาครัฐและสถาบันอุดมศึกษามีบทบาทในการขับเคลื่อนและรับมือความท้าทายดังกล่าว
ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) เข้าร่วมเป็นพันธมิตรหลัก โดยจะขับเคลื่อน 4 มิติสำคัญ ได้แก่
1.โครงการวิจัยและการศึกษาแบบร่วมมือด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ สุขภาพ และการผลิต
2.การพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทวิภาคีด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์
3.โปรแกรมเส้นทางปริญญาร่วม ภายใต้เครือข่าย ASU-Cintana
4.การพัฒนากำลังคนและวิชาชีพ เพื่อเสริมทักษะและสร้างบุคลากรคุณภาพ
ด้าน Mr. Jeffrey Goss รองอธิการบดีฝ่ายโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ Ira A. Fulton แห่ง ASU เปิดเผยว่า การเยือนซึ่งกันและกัน และการทำให้ความร่วมมือเป็นทางการในครั้งนี้ ไม่ใช่จุดเริ่มต้น แต่คือการเปิดบทใหม่ของความร่วมมือ ในด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไทย
ขอย้ำว่า ASU เป็นศูนย์กลางความพยายามด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐฯ และภาคภูมิใจที่ได้ขยายความเชี่ยวชาญสู่พันธมิตรนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างนวัตกรรม การพัฒนากำลังคน และความเป็นเลิศทางวิชาการ
นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้หารือกับผู้บริหาร ASU และภาคอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ Intel, Microchip, Siemens, Deca และ Benchmark รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของรัฐแอริโซนา เพื่อสำรวจแนวทางความร่วมมือด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์เชิงลึก ตลอดจนการพัฒนาหลักสูตร การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการวิจัยร่วมในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น วิศวกรรมชีวการแพทย์ นวัตกรรมสุขภาพ การผลิตขั้นสูง และเทคโนโลยีอวกาศ
ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นอีกก้าวสำคัญของไทยในการผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ให้กลายเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของยุทธศาสตร์สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต