พลังงาน - คปภ.หารือ ช่วยเจ้าของปั้มน้ำมัน-ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ไทย-กัมพูชา

พลังงาน - คปภ.หารือ ช่วยเจ้าของปั้มน้ำมัน-ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ไทย-กัมพูชา
กระทรวงพลังงาน ร่วมหารือกับ คปภ. หาทางช่วยเหลือเจ้าของปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากระเบิด BM21 กัมพูชา คปภ.ยันประกันยังคุ้มครองชี้ยังไม่ใช่เหตุสงคราม

พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ได้รับมอบหมายจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้รับหนังสือขอความอนุเคราะห์และขอความเป็นธรรม จากนางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ตำบลบ้านผือ อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยิงลูกระเบิด BM21 ที่ถูกยิงจากฝั่งกัมพูชา เป็นผลให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก

พ.อ. เฟื่องวิชชุ์ กล่าวว่า แม้ กระทรวงพลังงาน จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรง แต่กระทรวงพลังงาน โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ดูแลและเป็นตัวกลางในการประสานงานและหารือกับทาง คปภ. และผู้บริหารของ PTTOR ในการหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน 

ด้าน นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)  กล่าวว่า  จากการตรวจสอบกรมธรรม์ที่ทางเจ้าของปั๊มได้ทำไว้กับบริษัทประกันภัยนั้น ยอมรับว่าปกติกรมธรรม์จะระบุเงื่อนไขว่าไม่คุ้มครองภัยที่เกิดจากสงครามหรือการรุกราน แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ใช่ภัยจากสงคราม แต่เป็นการปะทะกันของทหารของทั้งสองประเทศระหว่างแนวชายแดนไทยกัมพูชาเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์สู้รบระดับประเทศหรือระหว่างรัฐกับรัฐ ในลักษณะที่ถือว่าเป็นภัยสงคราม

ทั้งนี้เบื้องต้นจึงต้องตีความเหตุปะทะกัน ไม่ว่าจะเป็น จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และจังหวัดอื่นๆ ระหว่างแนวชายแดนไทยกัมพูชา ไม่ใช่สงคราม เป็นเพียงการปะทะของกองกำลังเท่านั้น และไม่ใช่การรุกรานประเทศ เพราะเป็นเหตุปะทะที่เกิดขึ้นในพื้นที่จำกัดในระยะเวลาอันสั้น เพราะฉะนั้นเชื่อมั่นได้ว่ากรณีที่ประชาชน ปั๊มน้ำมัน หรือผู้ประกอบการที่ทำประกันภัย ประกันชีวิตไว้

"ดังนั้น จึงถือว่ากรมธรรม์ยังต้องคุ้มครองและจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้ได้รับความเสียหาย บริษัทประกันภัยไม่ควรเอาเรื่องภาวะสงครามมาเป็นเหตุอ้างในการปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนทุกกรณีแต่อย่างใด"นายคณานุสรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ คปภ.ได้มอบหมายสำนักงานประกันภัยจังหวัดศรีสะเกษลงพื้นที่ตรวจสอบและดูแลผู้ที่ได้รับความเสียหายในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ พบว่าปั๊มแห่งนี้ ทำประกันภัยไว้ 2 ประเภท คือ ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ที่มีการระบุความเสี่ยงอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้ครอบคลุม โดยจะมีความคุ้มครองตัวอาคารทั้งหมดที่อยู่ในปั๊มน้ำมัน อาจมีเงื่อนไขต่างๆ ในกรมธรรม์ จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแล แต่มั่นใจได้ว่ากรณีนี้อยู่ในความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทประกันภัยมีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหายและชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

ส่วนประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability) ความเสียหายนั้นเป็นความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากปั๊มน้ำมัน แต่เป็นความเสียหายจากบุคคลภายนอก ดังนั้นกรมธรรม์ฉบับนี้อาจจะไม่มีความคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม คปภ. ได้ประสานไปยังบริษัทประกันภัยดังกล่าว ว่าแม้จะไม่มีความคุ้มครองแต่จะขอให้บริษัทแห่งนี้ให้ความช่วยเหลือเป็น สินไหมกรุณา (Ex-gratia Payment) คือ เงินสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันจ่ายให้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ต่อเหตุการณ์ความเสียหายที่ไม่ได้อยู่ในความคุ้มครองของกรมธรรม์

ขณะเดียวกัน คปภ. ได้ตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตแต่ละคนมีประกันภัยกับบริษัทใดบ้าง ซึ่งบางคนมีการทำประกันภัยส่วนตัวไว้ ก็ได้ประสานงานให้บริษัทประกันภัยเร่งให้ความช่วยเหลือ รวมถึงขอให้บริษัทประกันภัยนั้นๆ ให้ความช่วยเหลือเป็นสินไหมกรุณาให้กับผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แม้ว่าจะไม่มีความคุ้มครองก็ตาม ส่วนกรณีที่มีเด็กเสียชีวิต ได้ประสานไปยังโรงเรียน พบว่าได้มีการทำ พบว่าได้มีการทำประกันภัยอุบัติเหตุไว้ จึงได้ประสานให้บริษัทประกันภัยเตรียมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย

อย่างไรก็ตาม โดยปกติตามกระบวนการทั้งหมดยจะใช้เวลา 45 วัน กรอบการพิจารณาภายใน 15 วัน และจ่ายเงินภายใน 15 วัน โดยหน้าที่ของคปภ. จะเร่งให้เร็วกว่านั้น ซึ่งขั้นตอนกรณีนี้ ได้รับแจ้งเหตุนับจากวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. ได้มอบหมายให้ทีมงานลงไปตรวจสอบแล้ว และทางคปภ.ได้เจรจากับผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 2 บริษัทประกันภัยแล้ว ซึ่งทางผู้บริหารประกันภัยทั้ง 2 แห่งรับรู้แล้วว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการปะทะ ไม่ใช่ภัยสงคราม ทุกอย่างอยู่ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ต้องเยียวยา แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ เพราะเป็นเงื่อนไขของทางบริษัท

ในขณะที่ ผู้แทนจากโออาร์ กล่าวว่า ในส่วนของโออาร์นั้น เบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ฝั่งกัมพูชายิงจรวดข้ามแดนมาตกบริเวณปั๊มน้ำมันพีทีที สเตชั่น อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โออาร์ได้เข้าไปมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนความคืบหน้าการเข้าไปเยียวยาซ่อมแซมปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคืนพื้นที่อย่างเป็นทางการจากฝั่งทหาร ตำรวจ เนื่องจากบางส่วนยังต้องรอเคลียร์ระเบิดลูกปลายฝังอยู่บางส่วน หากเจ้าของปั๊มได้รับการคืนพื้นที่อย่างเป็นทางการทั้งหมดแล้ว ทางโออาร์จะเร่งเข้าไปซ่อมแซมปั๊มน้ำมัน เพื่อให้ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน กลับมาให้บริการเร็วที่สุดก่อน โดยไม่ต้องรอบริษัทประกัน

ขณะที่ นางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ แต่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันและร้านสะดวกซื้อของตนได้รับผลกระทบอย่างมาก ต้องปิดสถานีบริการมากกว่า 3 เดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 21 ล้านบาท ซึ่งสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคาร 

 

TAGS: #กัมพูชา #คปภ #พลังงาน #ไทยกัมพูชา #ศรีสะเกษ #ปั๊มน้ำมัน