รัฐบาลรับทราบเหตุทหารเหยียบกับระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งดูแลเยียวยาเต็มที่ – ย้ำหากเป็นระเบิดใหม่ ถือว่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เผยทบ.ขอเวลา 2-3 วัน ตรวจพิสูจน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับรายงานจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) กรณีเกิดเหตุทหารลาดตระเวนเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เบื้องต้นกองทัพบกได้ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (นปท.) เข้าพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และวิเคราะห์ชนิดของทุ่นระเบิด คาดว่าจะใช้เวลาตรวจพิสูจน์ประมาณ 2–3 วัน
รัฐบาลย้ำว่า หากพบว่าทุ่นระเบิดดังกล่าวถูกติดตั้งขึ้นใหม่ จะถือเป็นการละเมิด “อนุสัญญาออตตาวา” ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีมาตั้งแต่ปี 2542 พร้อมระบุว่าหากมีการล่วงละเมิดอธิปไตยไทย จะกำหนดท่าทีตอบโต้ตามหลักสากลโดยไม่เพิกเฉย
ด้านกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นของยุคสมัยกองทัพเขมรแดง หรือเพิ่งถูกนำมาติดตั้งในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ หน่วยงานได้ส่งกำลังพลเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อก่อสร้างเส้นทางลาดตระเวนตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้ตรวจพบวัตถุทางการทหารหลายรายการในพื้นที่
ในส่วนของการดูแลกำลังพล นายจิรายุระบุว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการรักษาพยาบาลและสวัสดิการ โดยขณะนี้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน, ส.อ.ปฏิพัทธิ์ ศรีลาศักดิ์ และพลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี อาการอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และมีขวัญกำลังใจดี โดยได้รับการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
รัฐบาลมีมาตรการเยียวยากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งด้านการแพทย์ การเลื่อนยศ บำเหน็จรายเดือน และเงินสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ รวมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมพิจารณาบรรจุทายาทเข้ารับราชการทดแทนในกรณีพิเศษ รวมถึงการมอบเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภท 1 และบัตรทหารผ่านศึกชั้น 3 ให้เป็นสิทธิประโยชน์ตลอดชีวิต
ในวันเดียวกัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมมอบสิ่งของจำเป็น และย้ำว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แนวหน้าอย่างเต็มที่
นางสาวแพทองธาร กล่าวแสดงความเคารพในความเสียสละของกำลังพล พร้อมยืนยันว่า กระทรวงกลาโหมกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและเก็บกู้วัตถุระเบิดโดยเร็วที่สุด โดยรัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบ เพื่อดูแลทั้งกำลังพลและประชาชน พร้อมรักษาอธิปไตยของประเทศ และนำความสงบกลับคืนสู่พื้นที่ชายแดนโดยเร็ว