ป.ป.ส. เผย คนไทยเสพติดยาบ้า เพิ่มสูง

ป.ป.ส. เผย คนไทยเสพติดยาบ้า เพิ่มสูง
พบคนไทย มีปัญหาสุขภาพจิตกว่า 2.2 แสนคน เหตุเสพติดยาบ้า ด้าน ป.ป.ส. เล็ง ตั้งศูนย์ แก้ปัญหา

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดงานนำเสนองานวิจัยประมาณการจำนวนประชากรผู้ใช้สารเสพติดของประเทศไทย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจากทุกหน่วยงาน ทราบถึงปัญหาและสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ ไปต่อยอดต่อการปฏิบัติในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี รศ.ดร.มานพ คณะโต ประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติด และผู้อำนวยการศูนย์วิทยาการเสพติด มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล และ รศ.พ.ต.ต.หญิง ดร.พูนรัตน์ ลียติกุล คณะกรรมการบริหารเครือข่าย องค์กรวิชาการสารเสพติด และรองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ป.ป.ส. ร่วมกับคณะกรรมการบริหารเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติด ทำการศึกษาวิจัยสำรวจครัวเรือนทั่วประเทศ เพื่อคาดประมาณจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดในประเทศไทยในปี 2567 รวมถึงความชุกของผู้ใช้สารเสพติด จำแนกตามชนิดยาหรือสารเสพติด รูปแบบ และลักษณะการใช้สารเสพติดของประชากรในประเทศไทย โดยผลการสำรวจ พบว่าประชากรไทยอายุระหว่าง 12–65 ปี ในรอบปีที่ผ่านมามีประชากรประมาณ 3.8 ล้านคน ใช้กระท่อมประมาณ 1.9 ล้านคน ใช้สารเสพติด 1.6 ล้านคน ใช้กัญชา 1.5 ล้านคน และใช้ยาบ้า 1.5 ล้านคน ทั้งนี้ ควรเข้ารับการบำบัดรักษาประมาณ 330,000 คน มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ประมาณ 220,000 คน

นอกจากนี้ ผลการวิจัย พบว่า ยาบ้าเป็นยาเสพติดที่มีการใช้มากที่สุดและเป็นปัญหายาเสพติดของประเทศไทย ซึ่งต้องยกระดับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน รองลงมา คือ ยาอี เฮโรอีน ไอซ์ เคตามีน ฝิ่น โคเคน และสารระเหย ตามลำดับ สำหรับในรอบปีที่ผ่านมามีผู้ใช้สารผสม จำนวน 21,000 ราย ซึ่งสะท้อนถึงกลุ่มประชากรย่อยที่มีความเสี่ยงสูงกลุ่มใหม่ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการบำบัดรักษาที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวอาจมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่รุนแรง และมีความยากลำบากในการจัดการกับผลกระทบจากสารเสพติดหลายชนิดที่ทำปฏิกิริยาต่อกัน

ทั้งนี้ ในปี 2568 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานภาคีอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ทั่วประเทศ พร้อมประชุมกำกับติดตามงานกับศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าหน่วยงานระดับจังหวัด 2 ครั้งต่อเดือน เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการทำงานและการขับเคลื่อนในเชิงพื้นที่อย่างมีประสิทธิผล รวมถึงบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างทันท่วงที

 

TAGS: #ยาเสพติด #ปราบปรามยาเสพติด #ข่าววันนี้ #ข่าว #กระแส