นายกฯ มอบนโยบายปราบยาเสพติด สั่งลุย บอกสมัยไทยรักไทยทำสำเร็จมาแล้ว ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเทคโนโลยี-งบประมาณ ส่วนความเห็น “ทักษิณ” แนะปราบแหล่งผลิตในว้าแดง ยินดีรับฟังหมด
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแถลงผลการปฏิบัติ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส. รวมถึง ผบก.ในสังกัด เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
โดย น.ส.แพทองธาร รับฟังรายงานการจับกุมยาเสพติด ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน ที่ผ่านมา (1 เม.ย. - ปัจจุบัน) หลังจากการเปิดปฏิบัติการ SEAL - STOP - SAFE กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เดินหน้า ปิดล้อม-บุกจับ-ขยายผล-ยึดทรัพย์ เครือข่ายรายสำคัญได้กว่า 31 คดี ผู้ต้องหา 34 คน ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 126 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท ยุทธการเชิงรุกในการสกัดกั้นและขยายผลการปราบปรามยาเสพติดในครั้งนี้ รายละเอียด ดังนี้ สกัดกั้นจากชายแดนภาคเหนือ 10 คดี ผู้ต้องหา 17 คน ของกลาง ยาบ้ากว่า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 70 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 2,476 กิโลกรัม สกัดกั้นจากชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ของกลาง ไอซ์ 697 กิโลกรัม สกัดกั้นในพื้นที่ภาคใต้ไม่ให้ผ่านไปยังประเทศที่สาม 4 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ของกลาง ไอซ์ 1,132 กิโลกรัม สกัดกั้นลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทาง ได้แก่ ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และกินี ตามโครงการ AITF 15 คดี ของกลาง ไอซ์ 137.68 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 57.26 กิโลกรัม
จากนั้น นายกฯ กล่าวขอบคุณความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งตั้งแต่มีมาตรการ Seal stop safe ของรัฐบาลประมาณ 3 เดือนครึ่ง เห็นได้ชัดว่า ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ทำให้เกิดผลสำเร็จที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมให้ประชาชนได้เห็น ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เคยเล่าว่า สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ปราบยาเสพติดได้สำเร็จ มีจำนวนหนึ่งที่มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศไทย แต่ตอนนี้ย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน มีกำลังการผลิตมากขึ้น เนื่องจากมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทุกวันนี้สามารถสกัดกั้น และปราบปรามได้เป็นจำนวนมาก จึงต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน และผู้ที่แจ้งเบาะแส ที่สามารถทำให้จับกุมปราบปรามยาเสพติดได้มากขนาดนี้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ยาเสพติดเป็นปัจจัยที่กีดขวาง ทำให้ลูกหลานต้องติดยา ครอบครัวมีความทุกข์ บางครอบครัวมีการฆ่ากันจนเสียชีวิต และที่สำคัญอยากให้ทุกคนเปิดใจยอมรับผู้ที่ติดยาเสพติดกลับเข้ามาในสังคม เราจะให้โอกาสและมีแผนของการฟื้นฟู เพื่อให้สามารถคืนกลับคืนสู่สังคมได้
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณทุกหน่วยงานอีกครั้งที่ ทำให้การปราบปรามยาเสพติดประสบความสำเร็จ รัฐบาลจะสนับสนุนทุกวิถีทาง ทั้งเรื่องเทคโนโลยีและงบประมาณในการปราบปราม และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน อยากให้มีความเข้มแข็ง มีกำลังใจในการทำงานและขอให้ทำงานอย่างปลอดภัย เพราะการทำงานแบบนี้มีความเสี่ยงขอให้มีกำลังใจที่ดีและขอให้ประชาชนเข้าใจเห็นใจ เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศ
จากนั้น นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศทำสงครามกับว้าแดง ว่า อะไรที่เป็นข้อมูลที่สามารถใช้ได้ ยินดีรับฟังหมดทั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากชาวบ้าน ประชาชนในหมู่บ้านใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ ที่ระบุว่า ยาเสพติดมาจากตรงไหน อยู่หมู่บ้านตรงไหน ขอให้แจ้งเบาะแสเข้ามา ยินดีตรวจสอบ ที่สามารถจับกุมได้ล็อตใหญ่ เพราะได้รับแจ้งเบาะแสมาทั้งนั้น จะเห็นได้ว่า ทุกคนมีส่วนร่วมช่วยกันจริง ๆ