"มาริษ" ร่วมประชุม รมว.กต.อาเซียน หารือทางออกปัญหาเมียนมา พัฒนาพลังงานทางเลือก ผลักดัน FTA
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่า ที่ประชุมได้ชื่นชมและขอบคุณประเทศไทยที่สนับสนุนมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ในการแสดงบทบาทสำคัญด้านการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เมียนมา ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว นอกจากนี้ยังสนับสนุนข้อเสนอจัดตั้งกลไกประสานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา ระหว่างทางการเมียนมา อาเซียน และองค์การระหว่างประเทศ ตามที่ไทยผลักดัน โดยให้ศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ (AHA Centre) เป็นจุดประสานงานหลัก เพื่อระดมการสนับสนุนการฟื้นฟูประเทศเมียนมาอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาเวทีพูดคุยที่สร้างสรรค์ระหว่างเมียนมากับอาเซียน แสดงให้เห็นบทบาทนำของอาเซียนในการแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมในเมียนมา และทำให้เกิดพัฒนาการสำคัญในทางที่ดี โดยหลายประเทศเชื่อมั่นว่าเริ่มมีแนวทางที่จะนำไปสู่การเจรจาพูดคุยอย่างสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาของเมียนมาได้ในอนาคต
ประเทศไทยยังพยายามขับเคลื่อนให้เปลี่ยนความเห็นที่แตกต่างไปสู่กิจกรรมที่เป็นความร่วมมือ
ระหว่างกันของทุกภาคส่วน โดยริเริ่มการเจรจาพูดคุย 3 ฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และอินเดีย และการพูดคุย 4 ฝ่ายระหว่างไทย เมียนมา จีน และลาว รวมถึงล่าสุดไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการหารือ 6 ฝ่ายระหว่างเมียนมา กับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเน้นการแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดน ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันด้านการบริหารจัดการน้ำภายใต้กรอบของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงด้วย ส่วนในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางถึงสาขาที่อาเซียนและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับมีศักยภาพร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น การค้าและการลงทุน การดึงดูดการลงทุนจากกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับเข้ามายังอาเซียน ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสองกลุ่มประเทศเพื่อเพิ่มปริมาณการค้า ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน ซึ่งกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับพร้อมร่วมมือกับอาเซียนพัฒนาพลังงานทางเลือก เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต
นอกจากนี้ นายมาริษ ยังเข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ไทยได้ย้ำความสำคัญของความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อสร้างเสริมบทบาทเชิงรุกให้ภาคเอกชนในการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ แสวงหาหุ้นส่วนและตลาดใหม่ ๆ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการเติบโตในระยะยาวและยั่งยืน ทั้งยังยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการขับเคลื่อนการค้าภายในภูมิภาค ส่งเสริมความเชื่อมโยง ความยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยเฉพาะผ่านการเร่งรัดการเจรจาจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว