" ภูมิธรรม " ยอมรับ ใช้มาตรการ ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนลาว - กัมพูชา ทำได้ยาก ฟุ้งรอจับตัวการใหญ่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึง การประเมินมาตรการ 3 ตัด เพื่อตัดตอนขบวนการคอลเซนเตอร์ ในประเทศเมียนมา หลังครบรอบ 3 เดือนว่า ประเด็นหลักอยู่ที่การส่งคนกลับในพื้นที่ประเทศแอฟริกา, ลาตินอเมริกา และเอธิโอเปีย ซึ่งยังไม่สามารถประสานประเทศต้นทางให้มารับคนกลับได้ แต่ก็มีการประสานมูลนิธิเอกชนให้เข้ามาช่วยผู้ประสบภัย รวมไปถึงจะมีการขยายดำเนินการส่งคนกลับให้มากขึ้นเนื่องจากการที่มีคนตกค้างจะเป็นปัญหา ขอยืนยันว่า มาตรการตัดการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังประเทศเมียนมา ถือว่าเป็นประโยชน์และประสบความสำเร็จ และปัญหาตามแนวชายแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย และแม่สอดจังหวัดตาก ถือว่าลดน้อยถอยลงไปมาก โดยมีการย้ายแหล่งไปยังพื้นที่อื่น ส่วนปัญหาในประเทศกัมพูชาก็อยู่ระหว่างการประสานงานกัน
" สำหรับการจับตัวการที่ใหญ่ขึ้นในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คาดว่า เมื่อครบ 4 เดือน ก็จะสามารถประเมินผลได้ว่า เราสามารถขยายผลต่อได้มากน้อยแค่ไหน " นายภูมิธรรม กล่าว
ทั้งนี้ มาตรการ Seal Stop save นอกจากจะช่วยแก้ไข ปัญหาเรื่องขบวนการคอลเซนเตอร์ และค้ามนุษย์แล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาการปราบปรามยาเสพติด แต่เป็นขบวนการที่ใหญ่ และแทรกซึมไปทุกภาคส่วน มีกลุ่มนอกประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็สามารถจับกุมดำเนินคดีได้อยู่เรื่อย ๆ คิดเป็นร้อยละ 60 จากที่เคยมีมา ถึงว่าเป็นมาตรการที่ได้ผล และสิ่งสำคัญคือพยายามที่จะขยายผลไปยังตัวการใหญ่
เมื่อถามว่า ผู้ประกอบการตามแนวชายแดนมองว่ามาตรการ 3 ตัดไม่ได้ผล เมื่อเทียบกับผลกระทบที่ทำการส่งออกลดลง นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีการประเมินว่า ผู้ค้ารายย่อยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีความพยายามที่จะปิดท่าข้าม ซึ่งจะกระทบกับผู้ประกอบการบางส่วน เนื่องจากท่าข้ามถือเป็นจุดโหว่ที่สุด การนำเข้าและส่งออกสินค้ายังเปิดตามปกติตามเส้นทางทางการ แต่สินค้าที่ควบคุม คือ สินค้าประเภทที่จะนำไปสู่ การใช้งานของกระบวนการคอลเซนเตอร์ โดยรวมจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก