"ทวี" รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ มอบนโยบายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการเชิญและรับฟังการเข้าให้ข้อมูลของ "สมเกียรติ ชูแสงสุข" ปมตึกสตง.ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว

เวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบนโยบายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการเชิญและรับฟังการเข้าให้ข้อมูลของนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม สืบเนื่องจากการประชุมของคณะกรรมาธิการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่ได้มีตัวแทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมมาธิการ เรื่องอาคาร สตง. ถล่ม และได้นำเสนอเอกสารเกี่ยวกับแปลนการแก้ไขอาคารบางส่วนต่อที่ประชุม โดยปรากฎชื่อของ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข เป็นผู้ควบคุมงาน และมีลายมือชื่อเซ็นรับรองในเอกสารดังกล่าว แต่นายสมเกียรติฯ กลับยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่

พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า ขณะนี้ DSI กำลังดำเนินการ 2 คดีควบคู่กัน ได้แก่ คดีการประกอบธุรกิจแทนคนต่างด้าว (นอมินี) และคดีประมูลงานก่อสร้างอาคาร สตง. ว่าเข้าข่ายฮั้วประมูลหรือทุจริตหรือไม่ พร้อมเร่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการถล่มและคลี่คลายข้อสงสัยของประชาชนโดยเร็ว แม้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ก็ยังลงพื้นที่รวบรวมหลักฐานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวีระบุว่า เอกสารที่คณะกรรมาธิการได้รับจาก สตง. มีชื่อของนายสมเกียรติในนามกิจการร่วมค้า PKW โดยพบภายหลังว่าอาจเป็นลายเซ็นปลอม DSI จึงเชิญมาให้ข้อมูล และจะนำลายเซ็นของนายสมเกียรติไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นของปลอม ก็จะนำไปสู่การตรวจสอบว่ามีผู้ใดเป็นผู้ควบคุมงานตัวจริง

ด้านนายสมเกียรติ ชี้แจงว่า ไม่เคยควบคุมโครงการดังกล่าว และไม่รู้จักผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้า PWK หรือผู้ที่นำชื่อของตนไปใช้ ยืนยันว่าไม่ได้ทำหน้าที่เป็นวิศวกรควบคุมงานมากว่า 20 ปีแล้ว พร้อมเปิดเผยว่า ได้แจ้งความกับ สน.วังทองหลาง ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. เพื่อให้สอบสวนข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และได้ส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่แล้ว

นายสมเกียรติยังกล่าวว่า การใช้ใบรับรองจากสภาวิศวกรควรตรวจสอบให้ตรงกับโครงการจริง เนื่องจากใบรับรองดังกล่าวออกเฉพาะรายโครงการเท่านั้น พร้อมเตือนผู้ประกอบการให้ตรวจสอบคุณสมบัติวิศวกรอย่างรอบคอบ

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามในประเด็นวิศวกรรมเกี่ยวกับปล่องลิฟต์ นายสมเกียรติอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาคารต้องผ่านการอนุมัติจากวิศวกรเจ้าของแบบเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนได้ตามใจตนเอง โดยเฉพาะในโครงการของภาครัฐที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเข้มงวด

ในส่วนของการออกแบบอาคารราชการ พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า โดยปกติหากหน่วยงานไม่มีฝ่ายออกแบบ ก็จะมอบให้กรมโยธาธิการและผังเมืองหรือกรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งกรณี สตง. ได้ขอให้กรมโยธาฯ ออกแบบ แต่ไม่สามารถทำได้ทันในกรอบเวลา 180 วัน จึงว่าจ้างเอกชนแทน โดยมีประเด็นต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่า วิศวกรผู้ออกแบบมีอายุมากถึง 85 ปี ซึ่ง DSI จะประสานกับสภาวิศวกรในการตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดี DSI ในฐานะหัวหน้าคณะสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวเสริมว่า ข้อมูลจากนายสมเกียรติสามารถนำไปเชื่อมโยงกับคดีอื่นได้ เช่น คดีนอมินี ส่วนการปลอมแปลงเอกสารต้องรอการสอบสวนร่วมกับตำรวจ เพื่อหาข้อสรุปว่าสัมพันธ์กับสาเหตุอาคารถล่มหรือไม่ โดย DSI และตำรวจจะดำเนินการสืบสวนควบคู่กัน