กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 3 เตือนพายุฤดูร้อนกระหน่ำเหนือ-อีสาน 12-14 เมษายน 68 กทม.-ปริมณฑลเตรียมรับมือ น้ำท่วมขังซ้ำรอยพื้นที่เสี่ยง เกษตรกรเร่งป้องกันผลผลิต
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ โดยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย
สำหรับบริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยคลื่นสูงประมาณ 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. 68 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมากโดยมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง เนื่องจากมีฝนตกในบริเวณดังกล่าว
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีลูกเห็บตก ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร ตาก เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา และบุรีรัมย์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี
กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 3 (85/2568) เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2568 แจ้งเตือนประชาชนทั่วประเทศไทยตอนบนให้ระมัดระวังอันตรายจาก พายุฤดูร้อน ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2568 โดยมีลักษณะของ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอาจมี ฟ้าผ่าและฝนตกหนัก ในบางพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ:
วันที่ 12 เมษายน 2568
ภาคเหนือ: เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว
วันที่ 13 เมษายน 2568
ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร และตาก
ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: นครนายก สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 14 เมษายน 2568
ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน และตาก
ภาคกลาง: สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนัก หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ชุ่มต่ำที่มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ อาทิ พื้นที่เมืองขอนแก่น อ.ศรีราชา เมืองพัทยา ที่อาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้น
เกษตรกรควร เสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย
เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชน วางแผนการใช้ชีวิตและการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.tmd.go.th หรือโทรสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง