"มาริษ" ถก รมว.กต.เวียดนาม หนุนไทย ปราบปัญหาสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ยืนยันให้ความร่วมมือแก้ฝุ่น PM2.5-บริหารจัดการลุ่มน้ำโขงร่วมกัน
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เข้าพบหารือแบบทวิภาคีกับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ณ กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
นายบุ่ย แทงห์ เซิน กล่าวแสดงความยินดีกับประเทศไทยที่สามารถลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-เอฟตา ซึ่งถือเป็นข้อตกลงฉบับแรกของไทยกับกลุ่มประเทศยุโรป นอกจากนี้ ยังชื่นชมไทยที่สามารถดำเนินการช่วยเหลือให้ตัวประกันชาวไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมได้รับการปล่อยตัวได้สำเร็จ พร้อมย้ำว่าปี 2024 เป็นปีที่ไทยประสบความสำเร็จในหลายด้าน โดยเฉพาะในมิติความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เวียดนามเห็นว่าไทยเป็นคู่ค้าสำคัญที่มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดมาอย่างยาวนาน
รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ยังได้สนับสนุนความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับข้อริเริ่ม “6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง” (Six Countries, One Destination) ของไทย
นอกจากนี้ เวียดนามยังแสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลไทยในการปราบปรามปัญหาสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติที่ไทยกำลังดำเนินการ พร้อมทั้งยืนยันความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และบริหารจัดการลุ่มน้ำโขงร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะเตรียมแผนงานให้เป็นรูปธรรม ก่อนการเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทยในอนาคต
ด้านนายมาริษ ได้กล่าวชื่นชมเวียดนามที่สามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าห้อยู่ในระดับต้น ๆ ของอาเซียน อีกทั้งยังแสดงความประทับใจต่อเวียดนามจากการมาเยือนประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวเมื่อหลายปีก่อน โดยเฉพาะเมืองเว้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ
สำหรับการหารือทวิภาคีในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ “The Three Connects Strategy” ซึ่งเป็นแนวทางในการเชื่อมโยงห่วงโซ่เศรษฐกิจท้องถิ่น ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นทางภูมิภาคและระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
การหารือดังกล่าวตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กันมาอย่างยาวนาน โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงบทบาทของทั้งสองประเทศในภูมิภาคอาเซียน
นายมาริษยังได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ และการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
รมว. มาริษ เสริมว่า โลกปัจจุบันไม่ใช่ยุคของการแข่งขันอย่างเดียว แต่เป็นยุคที่ต้องอาศัยความร่วมมือเพื่อรับมือกับสภาวะภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความเข้มข้นขึ้น เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของห่วงโซ่อุปทานและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ โดยชี้ว่าการผลิตสินค้าควรใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น การหารือครั้งนี้ยังเป็นโอกาสในการเตรียมการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม ซึ่งจะจัดขึ้นในปี 2568 โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือในระดับประชาชน อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางเยือนเวียดนามของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ภายในปีนี้