“พร้อมพงศ์“ ยื่นป.ป.ช.สอบ “บิ๊กป้อม” ปมบินนอก หรูอยู่สบาย เข้าข่ายรับทรัพย์เกิน 3 พันหรือไม่ ยัน มีหลักฐาน แต่ขออุบไว้ก่อน จ่อสอบเส้นทางการเงิน "ธีรยุทธ" เชื่อรับจ็อบร้อง เดินหน้าร้องต่ออีก 2 ซีรีส์
วันที่ 11 ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบการลาประชุมสภาโดยให้เหตุผลว่าเดินทางไปต่างประเทศของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใน 3 ช่วงเวลาคือ วันที่ 27 - 29 มีนาคม 2567, วันที่ 18 - 20 มิถุนายน 2567
และวันที่ 31 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2567 รวม 8 วัน เข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานของรัฐรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่อาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สิน หรือประโยชน์ที่ควรได้ตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากได้รับข้อมูลมาว่าเป็นการไปภารกิจส่วนตัว และเป็นไปในลักษณะ "บินหรู อยู่สบาย" โดยหลักฐานที่นำมาในวันนี้ เป็นเอกสาร ค่อนข้างละเอียดครบถ้วน แต่ภาพ และคลิปตนเองจะเผยแพร่ทีหลังตอนเข้ามาชี้แจง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ล่าสุดผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตอบปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดและข้อมูลการเดินทางของพลเอกประวิตรที่ตนเองได้ทำหนังสือขอไปเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แต่ระบุว่า สามารถให้หน่วยงานของรัฐมีหนังสือขอตรวจสอบมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ ตนเองจึงมายื่นคำร้องต่อป.ป.ช. ขอให้เป็นผู้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ส่วนตัวได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวในท่าอากาศยานดอนเมือง (M-JET) ว่า การเดินทางไปต่างประเทศของพลเอกประวิตร และคณะ ทั้ง 3 ช่วงเวลา เป็นการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเที่ยวบิน VPCKB 1 ครั้ง และเที่ยวบิน N519CP 2 ครั้ง จึงอยากให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบดูว่าจริงหรือไม่ เพราะพลเอกประวิตรเป็น สส. เป็นเจ้าพนักงานรัฐ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน
"ข้อมูลทั้งหมด มีผู้หวังดีให้ผมมาเพื่อให้ผมตรวจสอบ หากเป็นเรื่องจริงถือว่าเป็นการเดินทางแบบ VVIP มาก เพราะน่าจะใช้เครื่องบินส่วนตัว พักโรงแรมหรู อาหารการกินก็ระดับ 5 ดาว คนที่ให้ข้อมูลมาขอให้ผมตรวจสอบดูว่า พลเอกประวิตรออกเงินเอง หรือมีใครเป็นสปอนเซอร์ให้ตลอดทริปหรือไม่ เพราะถ้าพลเอกประวิตรไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ก็จะเข้าข่ายผิดกฎหมายป.ป.ช. มาตรา 128 ฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐรับเงินเกิน 3 พันบาท หากเป็นความจริง ถือเป็นความผิดที่มีโทษจำคุกตามกฎหมาย ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ ยังฝากถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ว่า ให้เตรียมหาพรรคใหม่ และเตเตรียมเอาปี๊บคลุมหัวได้เลย
นายพร้อมพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ออกมาบอกว่าทำไมไม่ตรวจสอบ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ลาประชุมบ้างว่า ถ้าอยากให้ตรวจสอบก็นำรายชื่อมาร้องที่ตนเองเลย อย่างกรณีพลเอกพิศาล วัฒนวงศ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหนึ่งในจำเลยของคดีตากใบที่ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังตรวจสอบ ติดตามตัวอยู่ และก็ได้ทำการเข้าไปตรวจคนที่บ้านแล้ว พร้อมระบุว่านายสามารถกำลังเบี่ยงประเด็น ไปเป็นประเด็นทางการเมือง
นายพร้อมพงศ์ ยืนยันไม่ได้เป็นการโต้ตอบ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่เมื่อวานนี้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ย้ำว่าที่มายื่นวันนี้ เพราะรอเอกสารจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพิ่งส่งมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หาก ป.ป.ช.ตรวจเรื่องนี้ได้ ช็อกโลกแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายธีรยุทธ มีการรับเงินหรือใบสั่งจากใคร ยืนยีนมีข้อมูล การรับผลประโยชน์ของ นายธีรยุทธ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และไม่มีเกมการเมือง เป็นเรื่องประโยชน์สาธารณะล้วน ๆ
ทั้งนี้นายพร้อมพงศ์ ระบุอีกว่า จะไปยื่นเอาผิดจริยธรรมของ พล.อ.ประวิตร ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร วันพุธที่ 16 ตุลาคมนี้ อีกครั้ง เพราะการที่ พล.อ.ประวิตร คืนเงินประจำตำแหน่ง สส.ในทางกฎหมายการคืนเงินไม่ได้บรรเทาโทษ ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 2-3 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ลาประชุมอีก และครั้งนี้ไม่ได้ไปคนเดียว แต่โดดประชุมเกือบทั้งพรรค
เพื่อไปทำบุญที่ภาคอีสาน โดยใช้วันที่ ส.ส.ต้องปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตนเองจะตรวจสอบว่า ใช้เที่ยวบินใดในการเดินทาง และเสียใช้จ่ายอย่างไร เพราะถือเป็นภารกิจส่วนตัว ไม่ใช่การทำงานเพื่อประเทศชาติ ดังนั้น จะเบิกค่าใช้จ่ายจากภาษีของประชาชนไม่ได้