“ธนกร” ฝากรัฐบาล ต่อยอดโครงสร้าง “ดิจิทัล” ที่ดีต่อยอดระบบ-ข้อมูลประชาชน สมัย”ลุงตู่” ยก"คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน"เป็นโมเดล ขอเร่งแก้เศรษฐกิจให้ตรงจุด ชม"นายกฯ"ทำถูกแล้ว ลงพื้นที่ฟังปัญหา
นายธนกร วังบุญคงชนะ อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวนไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท ต่อสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนมีข้อเสนอแนะอยู่ 3 ประเด็นที่อยากฝากไปยังรัฐบาล โดยเป็นการตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลที่ดี
ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลในอดีตมีการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผ่านโครงการต่างๆมากมาย ทั้งโครงการ “คนละครึ่ง” “เราเที่ยวด้วยกัน” และอีกหลายโครงการ รวมถึงการเยียวยาพี่น้องประชาชนต่างๆโดยใช้ระบบดิจิทัลที่ดี จึงอยากให้รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการต่อตามมาตรการที่ได้มาตรฐาน
ซึ่งเรามีตัวเลขจำนวนประชาชนอยู่แล้ว จึงสามารถออกแบบการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ตรงเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลสามารถนำฐานข้อมูลเหล่านี้เรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ และการใช้จ่ายผ่านช่องทางเหล่านี้ มาวิเคราะห์และออกแบบสร้างแรงจูงใจในทางธุรกิจได้เพื่อให้สามารถทำงานเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น ตนจึงอยากให้รัฐบาลคำนึงถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ดี
ขณะเดียวกัน อยากให้รัฐบาลมีแผนในการหารายได้ให้กับประชาชนและประเทศชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมีการวางแผนในการจัดเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยกระทรวงการคลังมีแผนตรงนี้อยู่แล้ว แต่ทราบว่ายังไม่ตกผลึก จึงมองว่าหากมีการวางแผนในการจัดเก็บภาษีหารายได้ให้กับประเทศ จึงควรใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเก็บภาษีเกี่ยวกับการใช้จ่ายผ่านออนไลน์จะสามารถสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศอย่างมากมาย
โดยต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา ประเทศมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว ก่อนโควิด มีนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคน เงินเข้าประเทศถึง 2.7 ล้านล้านบาท เรามีรายได้จากการส่งออก ดังนั้น ตนเชื่อว่าหากมีการบริหารจัดการที่ดีเราจะสามารถหารายได้ให้กับประเทศได้
นายธนกร ยังกล่าวด้วยว่า อยากให้รัฐบาลมีนโยบายระยะกลางและระยะยาวออกมาด้วย ที่จะต้องทำให้โครงสร้างของเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำในปัจจุบันเพื่อให้จีดีพีของไทย สามารถขยายตัวได้อีก แต่เมื่อมีการขยายตัวต่ำ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด โดยช่วงก่อนโควิด เศรษฐกิจโลก 3.5% แต่หลังจากโควิดไทยขยายตัวต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 2% ล่าสุดไตรมาส 1 ของปี 2567 จีดีพีไทยขยายตัวเพียง 1.5% เท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย ขยาย ตัว 4.2% อินโดนีเซีย 5.1% เวียดนาม 5.9% ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหา ถ้าไม่แก้ตรงนี้ในอนาคตการขยายการลงทุนต่างๆจากต่างประเทศก็จะไปในประเทศเพื่อนบ้านหมด ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไข
ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลกำหนดเป็นนโยบายสำคัญที่สุดคือการทำอย่างไรให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตที่สูงขึ้น แก้ปัญหาข้อจำกัดในการพัฒนาเพื่อให้เป้าหมายเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นอย่างยั่งยืน ต้องดูในเรื่องของทักษะแรงงาน ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญและรัฐบาลชุดนี้ก็ดำเนินการอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังควรส่งเสริม เรื่องระบบเทคโนโลยีส่งเสริมภาคการผลิต รัฐและเอกชนต้องร่วมกันเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย จึงเชื่อว่า หากรัฐบาลเร่งดำเนินการก็จะสามารถแก้ปัญหาได้
นายธนกร ระบุว่า วันนี้อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญและเห็นคุณค่ากับงบประมาณ และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ถูกจุด โดยจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังเพื่อให้การใช้เงินงบประมาณซึ่งเป็นต้นทุนของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ก็อยากจะให้กำลังใจกับนายกรัฐมนตรี ที่ท่านขยันลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนทุกวัน ตนเห็นว่าการลงพื้นที่แบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
"แม้ว่าใครจะกระแนะกระแหนท่านก็ตาม แต่ผมเชื่อว่า การที่ท่านนายกฯ ลงไป นั่นคือการรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชน อย่างน้อยที่สุด กลไกในระบบราชการต่างๆ ก็จะได้มีการเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือประชาชน เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า หน่วยงานที่มีหน้าที่บางหน่วยงานไม่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เลย จึงทำให้เกิดอินฟูลเอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น "กัน จอมพลัง" หรือทนายความต่างๆ ซึ่งก็ขอชื่นชม และการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่มันเป็นประโยชน์ ท่านไม่ได้นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง แต่ลงพื้นที่ไปเจอปัญหา ไปพบกับพี่น้องประชาชน สร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
จึงขอให้กำลังใจ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อะไรที่เสนอแนะได้และต้องยอมรับว่านายกฯก็รับฟังพวก ส.ส.เหมือนกัน วันนี้ทุกอย่างที่เราเดินมาก็ต้องยอมรับเรื่องภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ค่อยดี การค้าขายต่างๆ ได้รับผลกระทบจากต่างประเทศ ทั้งสงครามรัสเซีย ยูเครน สงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา กับจีน ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่ดี แต่ถ้าเราแก้ปัญหาอย่างถูกจุดได้ตนเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ และฝากกำลังใจเป็นรัฐมนตรีและสส.ในสภาทุกคนในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน"