"ชูวิทย์" ชี้ "กัญชา" ทางการแพทย์ใช้จริงแค่ 10% ที่เหลือ 90% ใช้พี้ สวด "อนุทิน" ห่วงเด็กเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า แต่พี้กัญชาไม่ห่วง
วันที่ 26 ก.พ. 2566 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ในเรื่องปัญหา "กัญชา" โดยมีรายละเอียดดังนี้
"อนุทิน" ทำเป็นห่วงเด็กเยาวชนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า แต่ที "กัญชา" พี้กันทั้งบ้านทั้งเมืองไม่ห่วงหรือไง? แล้วบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชาอะไรมันน่ากลัวมากกว่ากันไม่ทราบ? ประเทศไทยจะกลายเป็น ศูนย์กลางยาเสพติด โดยมีสารตั้งต้นจาก "กัญชาโมเดล" ของพรรคภูมิใจไทย จะมีใครปลูกในบ้าน 6 ต้นแล้วเอาไว้ใช้ในการรักษาโรคบ้าง
เพราะการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์มีวิธีการปลูกที่แตกต่างกันมาก ส่วนใหญ่ปลูกไว้พี้เอง หรือเอาไปขายให้เด็ก ทำไมไม่ใช้สมองซีกขวาคิด? และที่ นายอนุทิน พรรคภูมิใจไทย กระทำการได้ถึงขนาดนี้ เพราะ นายกประยุทธ์ เกรงใจไม่กล้าแตะถึงกำเริบเสิบสาน ต้องพึ่งให้สนับสนุนการอยู่ต่อในตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" เท่านั้นเอง
เดี๋ยวนี้ หาซื้อกัญชาง่ายเสียกว่าซื้อบุหรี่ ทุกที่มีขายกันหมดทุกหัวถนน ถามจริงๆ ว่า คนซื้อจะมีถึงสัก 10% ไหมที่ใช้รักษาทางการแพทย์ เพราะอีก 90% ใช้พี้กันทั้งนั้น หากรักษาโรคทางการแพทย์จริง ทำไมไม่ไปขายในโรงพยาบาล และให้หมอออกใบสั่งยามาให้เลยล่ะครับ? แต่นี่กลับตั้งรถขายกัญชาทุกหัวมุมถนน ตั้งร้านขายกันทั่วบ้านทั่วเมือง
นี่เป็นนโยบาย ที่ทำร้ายชาติมากสุดตั้งแต่มีการตั้งพรรคการเมืองมา เพราะออกมาแค่ "กฎกระทรวง" เพื่อไปปลดกัญชาออกจากบัญชี "ยาเสพติด" ใน พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 อีกทั้งยังคิดจะเอาเข้าสภา ให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด การรณรงค์ทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ จึงขอล็อกเป้า "พรรคภูมิใจไทย" ต้องไม่ให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก
คงคิดว่านโยบาย "กัญชา" จะทำให้เพิ่มคะแนน ทำจริง ทำได้ ทำจนเด็กเยาวชนติดกัญชา แล้วยังมาทำพูดดีว่าห่วงเด็กเยาวชน ให้เหม็นขี้ฟัน บอกว่ามีกฎไม่ให้ซื้อ แต่การเข้าถึงง่ายกว่าซื้อบุหรี่ไฟฟ้า รออาทิตย์หน้าถึงคิวกระทรวงสาธารณสุข ได้เจอกันแน่ไอ้หนู โถ..ทำเป็นธรรมะธรรมโม รู้จักเอ่ยคำพระ สัพเพ สัพตา แต่ไม่ทราบว่า ลูกใครดูดกัญชาทั้งวันจนสมองเพี้ยนหมด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จริงๆ สาธุ