บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ คาด SET Index ฟื้นตัวช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2568 ให้กรอบ 1,230 – 1,300 จุด พร้อมแนะนักลงทุนเน้นหุ้น Domestic play และกลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ 10 หุ้นน่าสนใจ
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนธันวาคม 2568 ว่ามีโอกาสฟื้นตัวจากภาวะซบเซาช่วงที่ผ่านมา โดยให้กรอบดัชนี SET Index ในระดับ 1,230 – 1,300 จุด พร้อมระบุแนวรับและแนวต้านสำคัญที่ 1,200 และ 1,330 จุด ตามลำดับ
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มตอบรับข่าวดีมากขึ้น หลังจากผ่านช่วงข่าวร้ายในระยะสั้นไปแล้ว ทั้งผลประกอบการไตรมาส 3 ที่อ่อนแอและแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติที่เกิดจากการปรับตะกร้าดัชนี MSCI
ในขณะเดียวกัน ปัจจัยบวกหลายประการเริ่มเข้ามาหนุนตลาด เช่น การยุติโครงการ QT ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยทั้งจาก Fed และธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนเต็มที่ในราคาหุ้น รวมถึงช่วง High season ของการบริโภคและการท่องเที่ยว และสภาพคล่องในประเทศที่จะไหลเข้าสู่กองทุนลดหย่อนภาษีในโค้งสุดท้ายของปี
“เราคาดว่าเม็ดเงินจะไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นมากกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของหุ้นยังน่าสนใจกว่าตลาดพันธบัตร ณ เวลานี้” นายณัฐชาตกล่าว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในเดือนธันวาคม ทรีนีตี้แนะนำให้นักลงทุนที่สะสมหุ้นช่วงดัชนีย่อตัวในปลายเดือนที่แล้ว สามารถถือครองหุ้นต่อได้ เนื่องจากสัญญาณบวกจาก Market breadth ของตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าดัชนีหลักปรับลดลง แสดงถึงความแข็งแกร่งของหุ้นรายตัวและพร้อมรับการปรับตัวขึ้นเมื่อมีข่าวดีเข้ามา
ในเชิงกลยุทธ์ ทรีนีตี้ยังคงแนะนำให้น้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาด (Overweight) ในกลุ่มหุ้นที่เน้นเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic play) เช่น กลุ่มค้าปลีก ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค รวมถึงกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม สนามบิน และสายการบิน นอกจากนี้ยังเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว เช่น หุ้นที่เตรียมเข้าดัชนี SET50
10 หุ้นที่ทรีนีตี้แนะนำให้ติดตามในเดือนธันวาคม ได้แก่ HMPRO, GLOBAL, BAM, AP, BGRIM, ERW, AOT, AAV, SAWAD และ ITC
โดยสรุป ทรีนีตี้มองตลาดหุ้นไทยเดือนธันวาคมในโหมดฟื้นตัว จากการผสมผสานของปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ พร้อมโอกาสให้นักลงทุนเลือกสะสมหุ้นที่มีโอกาสเติบโตและรับผลตอบแทนในช่วงปลายปีนี้