แอร์บัสชูศักยภาพการเติบโตของเฮลิคอปเตอร์ในประเทศไทย 

แอร์บัสชูศักยภาพการเติบโตของเฮลิคอปเตอร์ในประเทศไทย 
แอร์บัสมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจเฮลิคอปเตอร์ใน ประเทศไทย โดยสนับสนุนภารกิจด้านการบรรเทาภัยพิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ ตลอดจนด้านความ มั่นคงทางทะเล 

ทีมผู้บริหารของแอร์บัสได้ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวก่อนงานแสดงยุทโธปกรณ์เทคโนโลยีด้านการทหารและ ความปลอดภัยระดับเอเซีย (Defence & Security exhibition) ที่แอร์บัสจะนำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ล่าสุดในกลุ่มเฮลิคอปเตอร์ร่วมจัดแสดง โดยแอร์บัสเน้นย้ำว่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มี เฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการบินอยู่ราว 1,900 ลำ และขณะนี้แอร์บัสเป็นผู้นำของตลาดเฮลิคอปเตอร์ในภาคพล เรือนและบริการสาธารณะ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ 

ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์เดียวขนาดเบาครองตลาดอยู่ บริษัทฯ เห็นว่ามีการนำเฮลิคอปเตอร์ขนาด เบาสองเครื่องยนต์และเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางมาใช้งานเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะในประเทศไทย 

ปัจจุบันมีเฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัสที่ปฏิบัติการบินอยู่ในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 71 ลำ โดยนำไปใช้ใน ภารกิจที่หลากหลายทั้งในภาคพลเรือน บริการสาธารณะ และทางการทหาร 

ประเทศไทยใช้เฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัสเกือบครบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่รุ่น เอช145เอ็ม (H145M) เฮลิคอปเตอร์ขนส่งลำเลียงอเนกประสงค์ของกองทัพเรือและกองทัพบกไทย เอช225เอ็ม (H225M) เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึง เอช135 (H135) เฮลิคอปเตอร์สำหรับฝึกซ้อมทางทหารรุ่น ใหม่ของกองทัพอากาศไทย และรุ่น เอช175 (H175) เฮลิคอปเตอร์ประสิทธิภาพสูงของสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ 

จากการคาดการณ์ว่าจำนวนฝูงบินที่ปฏิบัติการอยู่ในภาคการทหารและบริการสาธารณะของประเทศไทย จะเติบโตขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ในอีกสิบปีข้างหน้าแอร์บัสมั่นใจว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้ไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮลิคอปเตอร์สำหรับใช้ในภารกิจด้าน ความมั่นคงทางทะเล บริการการแพทย์ฉุกเฉิน การบรรเทาภัยพิบัติ ตลอดจนการค้นหาและกู้ภัยที่มีปริมาณ ความต้องการเพิ่มสูงขึ้น และนี่คือภาคส่วนงานที่แอร์บัสเฮลิคอปเตอร์ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน 

เนื่องจากการเติบโตที่คาดการณ์ในอนาคตจะได้รับแรงหนุนจากการปรับปรุงฝูงบิน (Fleet renewal) เป็นหลัก แอร์บัสมองว่า H145 เป็นเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ขนาดเบาที่เหมาะสมสำหรับให้บริการทาง การแพทย์ฉุกเฉิน เนื่องจากประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ความสะดวกสบายในการบิน และคุณสมบัติที่ สามารถปฏิบัติภารกิจทางการแพทย์ได้อย่างยอดเยี่ยม 

นอกจากนี้แอร์บัสคาดว่าความต้องการของภาคส่วนทางการทหารจะมาจากทั้งการจัดซื้อหาจัดหาเครื่องลำใหม่และการเปลี่ยนทดแทน เพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ทั้งด้านการฝึกซ้อมทางทหาร ความมั่นคงและ การเฝ้าระวังทางทะเล การค้นหาและกู้ภัย รวมถึงการขนส่งทางยุทธวิธีและนี่ทำให้เฮลิคอปเตอร์รุ่น H175 ของแอร์บัส เหมาะสำหรับการลาดตระเวนทางทะเล การรักษาความปลอดภัยทางทะเลและปฏิบัติการกู้ภัย ในขณะที่รุ่น H225M ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์นั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการในภารกิจที่ มีความหลากหลาย 

ผู้บริหารได้เน้นย้ำว่าประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่สำคัญของแอร์บัส ซึ่งได้เติบโตขึ้นจนปัจจุบันเป็นตัวเลือก หลักในการจัดหาและสนับสนุนให้กับสายธุรกิจต่าง ๆ ของแอร์บัส นอกเหนือจากความสำเร็จทางการค้าแล้ว แอร์บัสยังตอกย้ำถึงความสัมพันธ์และความร่วมมืออันยาวนานระหว่างแอร์บัสกับประเทศไทย 

นอกจากสำนักงานอย่างเป็นทางการในประเทศแล้ว แอร์บัสยังได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการบินของแอร์บัส (Airbus Flight Operations Services Centre) ในกรุงเทพฯ และมีศูนย์บริการลูกค้าเฮลิคอปเตอร์ที่ให้การ บำรุงรักษาและพัฒนาฝูงบิน (MRO) ของทั้งพลเรือนและทหาร ทั้งยังเป็นศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค กับลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้านของไทย ได้แก่ ประเทศลาวและกัมพูชา ในปัจจุบันแอร์บัสยังคงเป็นผู้ผลิต เฮลิคอปเตอร์รายเดียวที่มีศูนย์ซ่อมบำรุงในประเทศไทย 

แอร์บัสมีข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทอุตสาหกรรมการบินไทย (TAI) เพื่อให้การสนับสนุนฝูงบิน เฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดของของรัฐบาลไทย ปัจจุบัน TAI เป็นบริษัทผู้รับเหมาหลักของแอร์บัสและเป็นศูนย์ ให้บริการดูแลทั้งการขายและการจัดจ าหน่ายฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัสทุกลำที่ปฏิบัติการโดยกองทัพ และหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย

คุณฟาบริซ โรเชอโร (Fabrice Rochereau) รองประธาน/หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาค เอเชียแปซิฟิกของแอร์บัสเฮลิคอปเตอร์กล่าว “ประเทศไทยเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของแอร์บัส และเรายังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ในการเสริมสร้างสถานะและความร่วมมือของเราในประเทศไทย นอกจากนี้ เรายังมองเห็นโอกาสการเติบโตในกลุ่มเฮลิคอปเตอร์ต่าง ๆ ซึ่งแอร์บัสพร้อมที่จะสนับสนุนทุกหน่วยงาน  ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายซึ่งแสดงถึงการผสมผสานระหว่างสมรรถนะความสามารถและความคุ้มค่าที่ดี ที่สุด”