‘เกม(มหา)เศรษฐี’ ชิงตลาดค้าปลีกสะดวกซื้อ เจ้าสัวเจริญ ดึงโชห่วย 3 หมื่นรายเข้าระบบ

‘เกม(มหา)เศรษฐี’  ชิงตลาดค้าปลีกสะดวกซื้อ  เจ้าสัวเจริญ ดึงโชห่วย 3 หมื่นรายเข้าระบบ
‘เจ้าสัวเจริญ’ มหาเศรษฐีไทย มีแผนขยายอาณาจักรธุรกิจแข่งตลาดร้านสะดวกซื้อ ผ่านโมเดลใหม่ รับกำลังซื้อยุคใหม่เปลี่ยนแปลง ซื้อน้อยลง-ช้อปถี่ขึ้น ปัจจัยหนุนความต้องการในตลาดโตต่อเนื่องทุกปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก  รายงานข่าว ‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ หนึ่งในมหาเศรษฐี และเจ้าพ่อสุราของไทย ด้วยทรัพย์สินสุทธิราว 11.5 พันล้านดอลลาร์ เตรียมแผนผลักดันให้ร้านค้าปลีกโชห่วยรายเล็ก 30,000 แห่ง ด้วยโมเดลธุรกิจ 'โดนใจ’  ภายในปี 2570 ตามแผนธุรกิจบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี (BJC) ได้วางไว้

สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว บีเจซี จะเข้ามาให้บริการด้านการขนส่งและกระจายสินค้า (โลจิสติกส์) การตลาด และข้อมูลต่างๆ ใช้ในการทำสัญญาร่วมกับร้านค้าในการจัดหาสินค้าคงคลัง ขั้นต่ำจากบีเจซี รวมถึงบริษัท บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)  หรือ บีอาร์ซี (BRC)  และกลุ่มบริษัทไทยเบฟ

เพื่อเปลี่ยนจากร้านค้าแบบสแตนด์อโลน มาเป็นร้านสะดวกซื้อ

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกต่อการเข้ามาท้าชิงตลาดค้าปลีกสะดวกซิ้อของไทย ด้วยก่อนหน้ามีทั้งนักธุรกิจชั้นนำ และ กลุ่มทุนใหญ่ของไทยรายอื่นๆ ที่มองเห็นโอกาสธุรกิจในตลาดนี้ เช่นเดียวกัน

ทั้ง ‘คีรี กาญจนพาสน์’ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนทางรางสายแรกของประเทศไทย  กับธุรกิจค้าปลีกที่เป็นมากกว่าสะดวกซื้อ ‘Turtle Shop’  ที่มีสาขากระจายให้บริการบนสถานีรถไฟฟ้า ใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพฯ หลายแห่ง

รวมไปถึง ‘ตระกูลจิราธิวัฒน์’ รายใหญ่ในธุรกิจค้าปลีก ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ที่มีเครือข่ายธุรกิจสาขากระจายอยู่ทั้งในและต่างประเทศ ได้เตรียมแผนใช้แบรนด์ท็อปส์ เดลี่ (Tops Daily) สวมแทนแบรนด์แฟมิลีมาร์ท (Familymart) ร้านค้าปลีกสะดวกซื้อจากญี่ปุ่น ที่โบกมืออำลาประเทศไทยไปแล้ว

ขณะที่ปัจจุบันตลาดค้าปลีกสะดวกซื้อในประเทศไทย มีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น (7-ELEVEN) ที่มีจำนวนสาขามากกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้การบริหารของบริษัทซีพีออล์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในหลายธุรกิจของตระกูลเจียรวนนท์ ที่ร่ำรวยอันดับ1 ของเมืองไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินราว 28,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

บลูมเบิร์ก วิเคราะห์ต่อ ถึงธุรกิจการแข่งขันของร้านสะดวกซื้อในไทย มีแนวโน้มค่อนข้างรุนแรง ด้วยปัจจุบันรายใหญ่อย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น ประสบความสำเร็จ จากสัดส่วนจำนวนสาขาราว 75% ของร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ไปแล้ว

โดยปี 2566 ยังมีแผนขยายเพิ่มอีก 700 สาขา หากมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด ย่อมส่งผลให้การแข่งขันตลาดร้านสะดวกซื้อไทย มีการแข่งขันที่เข้มข้น มากขึ้น

นอกจากนี้ หากมองถึงโยบายรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การบริหารของ 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี  มีแผนแจกดิจิทัลวอลเลต มูลค่า 10,000 บาท โดยใช้งบประมาณรวม 560,000 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นผลบวกต่อการลงทุนธุรกิจด้านนี้ ด้วยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคครัวเรือนอยู่แล้ว

TAGS: #เจริญ #สิริวัฒนภักดี #ร้านสะดวกซื้อ