มาแล้ว Taxi VIP บริการจาก Grab และ CABB เรียกรถผ่านแอปฯ เจาะกลุ่มพรีเมียม

มาแล้ว Taxi VIP  บริการจาก Grab และ CABB  เรียกรถผ่านแอปฯ เจาะกลุ่มพรีเมียม
Grab ร่วมกับ CABB เปิดบริการ Taxi VIP ให้เรียกรถผ่านแอปฯ ชูเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม-นักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ-จังหวัดหัวเมือง พร้อมเพิ่มรถอีก 600 คันสิ้นปีนี้

เมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บฯ ร่วมกับพันธมิตรบริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ผู้ผลิตและผู้ให้บริการ CABB รถแท็กซี่วีไอพีต้นฉบับแบบลอนดอนแท็กซี่

ล่าสุดเปิดตัวบริการ “Taxi VIP” ให้ลูกค้าเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ CABB ผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยตั้งเป้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและลูกค้าพรีเมียมที่ต้องการความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว

โดยเริ่มนำร่องให้บริการแล้วในกรุงเทพฯ และภูเก็ต เตรียมเพิ่มจำนวนรถเป็น 600 คันภายในสิ้นปี พร้อมจะขยายพื้นที่การให้บริการในเมืองท่องเที่ยว อาทิ พัทยาและเชียงใหม่

“แกร็บมุ่งพัฒนาบริการและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริการการเดินทางผ่านยานพาหนะที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสารในแต่ละกลุ่ม รวมถึงลูกค้าพรีเมียม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจการเดินทางของแกร็บในปีนี้” เมธิณี กล่าว

โดยในช่วงที่ผ่านมา แกร็บได้ปรับปรุงบริการ ตลอดจนดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับการให้บริการกับลูกค้ากลุ่มนี้ อาทิ การปรับโฉมบริการเดินทางแบบพรีเมียมเพื่อสร้างความประทับใจผ่าน 5 ประสาทสัมผัส และการเพิ่มช่องทางการชำระเงินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการ Grab สามารถเรียกรถ CABB ผ่านเมนู  Taxi VIP ในแอปพลิเคชัน ซึ่งได้นำร่องให้บริการในจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเริ่มขยายการให้บริการในกรุงเทพฯ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะเชื่อมต่อระบบและสามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบภายในไตรมาส 4 ของปีนี้

ด้าน ภาสกร ดารารัตนโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด กล่าวว่า  CABB เปิดให้บริการในประเทศไทยครั้งแรกในปี 2563 ปัจจุบันมีรถแท็กซี่ CABB ให้บริการในกรุงเทพฯ และภูเก็ตรวมกว่า 400 คัน

โดยลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย และเชื่อมั่นในบริการที่มีความปลอดภัย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จากผ่านมาได้ให้บริการผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ ซึ่งลูกค้าสามารถเรียกรถ CABB ได้ตามจุดให้บริการต่างๆ และช่องทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน CABB  ซึ่งมีสัดส่วนราว 40%

“ความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะเปลี่ยนช่องทางการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน CABB ไปอยู่ที่แอปพลิเคชัน Grab เพียงช่องทางเดียว และขยายบริการไปยังเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ พัทยา และเชียงใหม่” ภาสกร กล่าว