CHEWA ชูกลยุทธ์ปี66 “The year of MEGA SALE” เตรียมทุ่มงบลงทุน 1,700 ล้านบาท รองรับการซื้อที่ดินสำหรับเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,350 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท-ยอดขาย 3,100 ล้านบาท
บุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า สำหรับกลยุทธ์ในปี 2566 บริษัทฯวางแผนระบายสินค้าเหลือขายพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ (Stock) ที่มีอยู่ให้หมด ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้าพร้อมโอนซึ่งรวมทั้งบ้านและคอนโด มูลค่ารวมประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท รวมถึงยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาด้วย หากแล้วเสร็จคาดว่าจะหนุนให้สต็อกมีมูลค่าเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 2,400 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯมี Backlog ในมือ 800 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด ส่วนยอดขายตั้งเป้าไว้ที่ 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม ประมาณ 1,500 ล้านบาท โครงการแนวราบ ประมาณ 1,300ล้านบาท และธุรกิจCHEWA RENUE ประมาณ 300 ล้านบาท
ด้านงบลงทุนสำหรับซื้อที่ดินปีนี้บริษัทฯวางไว้ที่ 1,700 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 6,350 ล้านบาท โดยงบลงทุนดังกล่าวจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน จำนวน 900 ล้านบาท และมาจากกระแสเงินสดหรือการออกหุ้นกู้ จำนวน 800 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่เปิดใหม่มี ดังนี้
-โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค 2โครงการ มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท
-โครงการคอนโดมิเนียมตึกสูง แบรนด์ชีวาทัย 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
-โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ไลท์ 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท
-บ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท
-ทาวน์โฮมแบรนด์ชีวาโฮม 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท
ในส่วนบริษัท ชีวาทัย ฮัพ ซูน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย หลังบริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดเมื่อช่วงไตรมาส 4/2565 ที่ผ่านมา จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ชีวาทัย รีนิว จำกัด (CHEWA RENUE) โดยบริษัทนี้ได้ประกอบธุรกิจขายบ้านมือสอง ซึ่งแผนในปี 2566 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตการประมูลบ้านมือสองจากกรมบังคับคดี บริษัทบริหารสินทรัพย์ และธนาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเป็น 100 ยูนิต จากปีก่อนที่สามารถประมูลมาได้ 38 ยูนิต และหากธุรกิจนี้มีการเติบโตและสามารถทำยอดขายแตะที่ระดับ 1,000 ล้านบาท บริษัทฯมแผนพิจารณา แยกบริษัทออก(Spin-Off )เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่อไปในอนาคต