กนอ.หวั่น PM2.5 ลุกลามถึงระยอง กำชับทุกพื้นที่เฝ้าระวังดูแลพนักงาน-ชุมชนรอบนิคมฯ ย้ำใช้มาตรฐานตามกม.คุมสารก่อมะเร็ง โต้นักวิชาการปล่อยข้อมูลเก่า
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ได้ขอให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิดพร้อมกบประเมินสภาพแวดล้อมรอบตัวและหาแนวทางป้องกัน หลังล่าปัญหาดังกล่าวได้ลุกลามไปในพื้นที่ 53 จังหวัดของประเทศแล้ว เพื่อความปลอดภัยของทั้งพนักงานในโรงงาน และชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ในพื้นที่มาบตาพุดพบสารก่อมะเร็งในพื้นที่สูงเกินค่ามาตรฐาน-อันตรายต่อสุขภาพจากการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่ายนั้น จากการตรวจสอบพบว่า รายงานดังกล่าวเป็นข้อมูลงานวิจัยอุบัติการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทยในช่วงปี 2557-2560 ที่จังหวัดระยองมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งสูง
ขณะที่ข้อมูลยังไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการรายงานผลตรวจของกรมควบคุมมลพิษว่า พบค่าสารเบนซีนเฉลี่ย 1 ปี ตั้งแต่ปี 2548-2558 ก็ยังเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ปัจจุบันเช่นกัน
สำหรับพื้นที่จังหวัดระยอง มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ 2 พื้นที่ คือ 1. ในเขตควบคุมมลพิษ บริเวณพื้นที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย นิคมอุตสาหกรรมผาแดง และนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล
และ 2. นอกเขตควบคุมมลพิษ บริเวณเขตประกอบการไออาร์พีซี นอกจากนี้ ยังมีสถานีเก็บตัวอย่างของ กนอ. ในพื้นที่ชุมชน จำนวน 8 สถานี (วัดมาบชะลูด, วัดหนองแฟบ,บ้านมาบตาพุด, วัดโสภณวนาราม, ชุมชนบ้านพลง, มาบตาพุดเมืองใหม่, สาธารณสุขบ้านตากวน และสถานีอนามัยมาบตาพุด) และในพื้นที่นิคมฯ 7 สถานี (สำนักงานนิคมฯ , มุมถนน I-3 ตัด I-4 , พื้นที่ถนน I-2 , ปตท.เคมิคอล I-1 , พื้นที่ถนน I-4 , ทิศตะวันออก และพื้นที่ถนน I-7)
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากนอ.เดินตามแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษมาตั้งแต่ปี 2549 พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) ในพื้นที่มาบตาพุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชน
ส่วนการจัดการสารอินทรีย์ระเหย (Volatile Organic Compounds : VOCs) ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และชุมชน กำกับดูแลการประกอบกิจการเกี่ยวกับการจัดการสารอินทรีย์ระเหย โดยในปี 2565 ได้นำมาใช้บริหารจัดการโรงงานในพื้นที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ซึ่งประกอบด้วย 6 นิคมอุตสาหกรรม และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม คือ นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค (Smart Park) นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) นิคมอุตสาหกรรมผาแดง นิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล (RIL) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด มาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กนอ. กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องส่งแผนการซ่อมบำรุง รวมถึงการจัดการกากของเสีย น้ำเสีย มาตรการควบคุมการปล่อย หรือระบายสารเคมีสู่บรรยากาศ และมาตรการในการควบคุมหอเผาก๊าซด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยต่อโรงงานหรือชุมชน โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566