บ้านปู เน็กซ์ ผสาน AI และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยธุรกิจไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero พร้อมลดต้นทุนและสร้างความยั่งยืน
บ้านปู เน็กซ์ ผู้ให้บริการ Net Zero Solutions ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ชี้แนวโน้มสำคัญของภาคธุรกิจไทยในการผสานกลยุทธ์ Net Zero เข้ากับการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกขอบเขตการปล่อยคาร์บอน สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจควบคู่ความยั่งยืนในระยะยาว
นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กฎระเบียบด้านการลดคาร์บอนและการเปิดเผยข้อมูล ESG ที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงความคาดหวังจากคู่ค้าในซัพพลายเชน การนำ AI และเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้จึงกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการสร้างความยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
“บ้านปู เน็กซ์ พร้อมเป็นผู้ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถขับเคลื่อนแผน Net Zero ให้เกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง ด้วยความเชี่ยวชาญด้านพลังงานและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ครอบคลุมตลอดทั้งกระบวนการ” นายสมิทธิพรกล่าว
Net Zero อัจฉริยะ จากกลยุทธ์สู่การใช้งานจริง
บ้านปู เน็กซ์ ให้บริการให้คำปรึกษาด้าน Net Zero แบบครบวงจรสำหรับลูกค้าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (C&I) ตั้งแต่การประเมิน วางกลยุทธ์ วางแผน ดำเนินการ ไปจนถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการคำนวณ ติดตาม และบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมนำเสนอโซลูชันพลังงานที่เหมาะสม ได้แก่
-
โซลูชันเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานอัจฉริยะ ควบคุมด้วย AI ช่วยมอนิเตอร์และคาดการณ์การใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2
-
โซลูชันพลังงานสะอาด ระบบโซลาร์พร้อมดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับมอนิเตอร์ ช่วยลดการปล่อยในขอบเขตที่ 2
-
โซลูชันการขนส่งสีเขียว บริการฟลีทรถไฟฟ้า (EV Fleet) ที่ใช้ AI วางแผนเส้นทาง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3
เมื่อผสานกับการจัดการคาร์บอนเครดิตและการจัดทำรายงานความยั่งยืน ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ตรวจวัดได้จริง
ตัวอย่างความสำเร็จจากธุรกิจไทย
ภาคโลจิสติกส์รายหนึ่งนำแพลตฟอร์ม AI ของบ้านปู เน็กซ์ มาใช้วางแผนเส้นทางขนส่ง ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ถึง 20% พร้อมลดการปล่อย CO₂ ขณะที่บริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่อีกแห่งใช้รถขนส่งไฟฟ้า 70 คัน ร่วมกับสถานีชาร์จของบ้านปู เน็กซ์ ลดการปล่อย CO₂ ได้ราว 1,300 ตันต่อปี
ด้านอาคารอัจฉริยะ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ใช้ระบบทำความเย็นที่ควบคุมด้วย AI ช่วยประหยัดพลังงานกว่า 5 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อย CO₂ ได้มากกว่า 700 ตันต่อปี ส่วน NSL Foods ติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปในโรงงาน ช่วยประหยัดพลังงานกว่า 8 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อย CO₂ ได้ประมาณ 2,400 ตันต่อปี
ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ยังสร้างคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม